แม้ว่าผู้ป่วยโรคเก๊าท์จะไม่สามารถรู้ได้ล่วงหน้าว่าอาการโรคเก๊าท์กำเริบนั้นจะเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ แต่ผู้ป่วยสามารถป้องกันอาการกำเริบนั้นได้ ด้วยการดูแลสุขภาพ และปรับการใช้ชีวิตประจำวันให้เหมาะสม การปรับพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตประจำวันให้เหมาะสม ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผู้ป่วยโรคนี้ เพราะไม่เพียงป้องกันอาการกำเริบเท่านั้น แต่ยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคร้ายแรงอย่างเช่นโรคไตและโรคหัวใจตามมา พฤติกรรมดังต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรจะต้องหลีกเลี่ยง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ป่่วยโรคเก๊าท์ควรจะกัดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งอาหารที่มีพิวรีนสูง ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ จะต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีพิวรีนสูง อย่างเช่น เนื้อสัตว์ที่มีไขมันมาก เครื่องในสัตว์ และสัตว์ทะเลที่มีเปลือก นอกจากนั้น ควรจำกัดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเบียร์ เพราะเบียร์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น จะไปเพิ่มระดับกรดยูริคในร่างกาย ส่วนอาหารและเครื่องดื่มที่ผู้ป่วยโรคเก๊าท์สามารถจะบริโภคได้ จะเป็นอาหารที่มีวิตามินซีสูง และอาหารพวก เชอร์รี่ กาแฟ สามารุลดความเสียงต่อการกำเริบของโรคเก๊าท์ได้ นอกจากนั้น การควบคุมน้ำหนัก ก็เป็นสิ่งสำคัญ และการดื่มน้ำสะอาดในปรีิมาณมาก ก็จะช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำและช่วยชะล้างยูริคออกจากร่างกาย ป้องกันไม่ให้ปริมาณยูริคมาเกิน จนเกิดการสะสมเป็นผลึกไปเกาะติดตามข้อต่อร่างกายจนเจ็บปวด ทุกข์ทรมาณ พยายามอย่าให้เกิดความเครียด เพราะความเครียด ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โรคเก๊าท์กำเริบได้ ยิ่งหากผู้ป่วยรายได้ มีอาการโรคเก๊าท์กำเริบบ่อย […]
Category Archives: บทความเกี่ยวกับโรคเก๊าท์
เก๊าท์เป็นโรคชนิดหนึ่งที่ทำให้ข้ออักเสบ อาการข้ออักเสบที่เกิดจากโรคเก๊าท์นี้ เกิดจากการมีก้อนผลึกไปจับตัวอยู่ที่บริเวณข้อต่อของร่างกาย ทำให้เกิดอาการบวม อักเสบ และเจ็บปวด โรคเก๊าท์นี้ผู้ชายส่วนใหญ่จะเป็นเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป ส่วนผู้หญิงจะมีโอกาสเป็นโรคนี้มากขึ้นเมื่อถึงวัยหมดประจำเดือน และโดยมากผู้ชายมีความเสี่ยงที่จะเป็นมากกว่าผู้หญิง โรคเก๊าท์นี้เมื่อกำเริบขึ้น ผู้ป่วยจะปวดมาก แต่ก็มีวิธีทั้งการบรรเทาอาการ และป้องกันไม่ให้อาการกำเริบขึ้น ผู้ป่วยจำนวนมากไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคเกีาท์ จนกระทั่งมีอาการกฎขึ้นที่ข้อต่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ข้อนิ้วหัวแม่เท้า เข่า ศอก นิ้วมือ ดังนี้ อาการจะเกิดขึ้นตามข้อต่อมากกว่าจุดเดียว ผู้ป่วยจะรู้ปวดร้อน และตึงบริเวณข้อต่อมาก มีอาการบวมรอบ ๆ ข้อต่อ สังเกตเห็นได้ว่าผิวหนังตึง และแดงในจุดที่เป็น อาการของโรคจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จากปวดแค่ไม่กี่ชั่วโมง ไปเป็น 3วันถึง 10 วันได้ […]
โรคเก๊าท์ เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับข้ออักเสบอย่างหนึ่ง ซึ่งผู้ป่วยโรคจะมีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงเกิดขึ้น เมื่อโรคกำเริบ เมื่อก่อนเคยมีการเรียกโรคนี้ว่า the disease of kings หรือโรคของคนกินดีอยู่ดีมากจนเกินไป กินมากไป ดื่มมากไป แต่ปัจจุบัน พบว่า มีปัจจัยอื่นร่วมด้วย โดยเฉพาะพันธุกรรม มีการสำรวจพบว่า กว่าร้อยละ 90 ของผู้ป่วยโรคเก๊าท์ มีเรื่องของพันธุกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่การถ่ายทอดทางพันธุกรรมนั้นไม่ได้ชัดเจนขนาดที่ว่า ถ้าพ่อแม่ป่วย ลูกหลานก็จะป่วยได้ด้วย แต่การถ่ายทอดจะเป็นไปในลักษณะที่มีการเว้นช่วงในบางรุ่น หรือบางคนได้ โรคเก๊าท์ เกิดขึ้นเพราะกรดยูริคในร่างกายมีปริมาณมากเกินไป เมื่อระดับกรดยูริคสูงเกินมาตรฐาน ก็จะมีการจับตัวกันเป็นก้อนผลึกที่แข็งและคม ก้อนผลึกนี้จะไปอยู่ตามข้อต่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ความแข็งและคมเหมือนเข็มนี้ ทำให้เกิดการอักเสบและสร้างความเจ็บปวด ซึ่งผู้ป่วยจะรู้ว่า นี่คืออาการของโรคเก๊าท์กำเริบ บริเวณข้อต่อที่เกิดการอักเสบ จะตึง บวม […]
โรคเก๊าท์ เป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยทุกข์ทรมานกับอาการปวดข้อ เพราะเมื่อร่างกายของเรามีปริมาณกรดยูริคมากเกินไป กรดเหล่านั้นก็จะไปจับตัวกันเป็นผลึกตามข้อต่อของร่างกาย ทั้งข้อต่อเล็กอย่างข้อนิ้วเท้า นิ้วมือ และข้อต่อส่วนอื่น ๆ ซึ่งทำให้เกิดอาการบวม อักเสบ ผู้ป่วยจะเจ็บปวด อาการแบบนี้เรียกว่า โรคเก๊าท์กำเริบ ทำให้ต้องรับการรักษา ทั้งด้วยการใช้ยา การปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร และการดำเนินชีวิตประจำวันบางอย่างเมื่ออาการของโรคกำเริบ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดบวมตามข้อ ซึ่งแน่นอนว่า อาจจะมากกว่าหนึ่งจุด ส่วนมากผู้ป่วยโรคเก๊าท์ จะมีอาการที่ข้อต่อนิ้วโป้งเท้า และที่อื่น ๆ อีก ได้แก่ เข่า ข้อเท้า เท้่า มือ เอว และข้อศอก โรคเก๊าท์กำเริบสามารถเกิดกับใครได้บ้าง แน่นอนว่า โรคเก๊าท์นี้ สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ในผู้ชายมีโอกาสเกิดโรคนี้ได้เร็วกว่าผู้หญิง โดยมักจะเกิดกับผู้หญิงหลังหมดประจำเดือน และผู้ชายก็มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้มากกว่าผู้หญิงมากถึง 3 เท่า เพราะผู้ชายจะมีระดับกรดยูริคในร่างกายสูง แต่ผู้หญิงนั้นระดับกรดยูริคจะสูงขึ้นเมื่อถึงวัยหมดประจำเดือน นอกจากนี้ […]
โรคเก๊าท์ แม้ว่าจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ผู้ป่วยโรคนี้สามารถควบคุมโรคได้ ด้วยการปรับพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตและการเลือกรับประทานอาหาร ส่วนจะต้องรับประทานยาต่อเนื่องหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โรคเก๊าท์สามารถควบคุมไม่ให้อาการกำเริบได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร และลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในขณะที่การรักษาด้วยยา ก็เป็นทางเลือกในการลดระดับกรดยูริกในร่างกาย อีกทั้งการรักษาด้วยการรับประทานยาในระยะยาวก็เป็นวิธีที่ใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการกำเริบบ่อย หรือมีโรคแทรกซ้อนอื่น ๆโรคเก๊าท์ เกิดจากการที่ร่างกายมีระดับกรดยูริคสูงมากเกินไป หากระดับกรดยูริคในเลือดสูงกว่าปกต กรดยูริคนั้นจะกลายเป็นผลึก แล้วไปจับตัวอยู่ที่บริเวณข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกาย จนเกิดการอักเสบ และมีอาการปวด หากปล่อยไว้นานเป็นปีข้อต่อจะเกิดความเสียหาย อาการของโรคเก๊าท์ที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน อาจจะกลายเป็นโรคเรื้อรังได้ แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้ป่วยทุกราย ดังนั้น การรักษาด้วยยาเพื่อลดระดับกรดยูริคในร่างกายลง จึงอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ ตามสถานการณ์ของคนไข้แต่ละรายว่าจะเริ่มให้ยาเมื่อไหร่ และต้องใช้ยาต่อเนื่องไปนานแค่ไหน เพราะยาอาจจะมีผลข้างเคียง หากมีการใช้ต่อเนื่องยาวนานหลายปี เมื่อต้องใช้ยาในการรักษาอาการผู้ป่วยโรคเก๊าท์ โดยทั่วไปแล้ว […]
เรามักจะได้รับข้อมูลอยู่บ่อย ๆ ว่า การรับประทานเนื้อสัตว์ปีก เช่นเนื้อไก่มาก ๆ จะทำให้เป็นโรคเก๊าท์ ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เป็นอย่างไร มาติดตามกันจากบทความนี้ เนื้อไก่ เป็นอาหารที่มีไขมันน้อย และเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ไม่ใช่สำหรับผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์ หรือผู้ที่มีระดับกรดยูริคในร่างกายสูงเกินไป คนกลุ่มนี้จะต้องระมัดระวังในการเลือกอาหารมารับประทาน ต้องทราบว่าอาหารชนิดใดรับประทานได้ในปริมาณมากน้อยแค่ไหน เมื่อจะรับประทานจะต้องเตรียมอย่างไร และแน่นอนว่า เนื้อไก่ ก็เป็นอาหารที่ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ต้องระมัดระวัง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เป็นโรคเก๊าท์ การรับประทานเนื้อไก่ ต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวัง เพราะเนื้อไก่เป็นอาหารที่มีประมาณของพิวรีนสูง พิวรีนนี้เป็นสารที่พบในเซลของร่างกายเรา และยังพบในอาหารอีกหลายชนิด โดยเฉพาะในอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ที่เติบโตเร็วอย่าง ไก่ ปลา และสัตว์ตัวเล็ก รวมทั้งพืชที่กำลังเติบโต แม้ว่าสารพิวรีน จะมีประโยชน์ต่อร่างกายของคนทั่วๆไป แต่สำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์แล้ว พิวรีนทำให้โรคกำเริบ มีการวิจัยพบว่า การที่ผู้ป่วยโรคเก๊าท์บริโภคพิวรีนมากเกินไป จะไปเพิ่มระดับของกรดยูริคในร่างกาย เมื่อกรดยูริคสูงจะเกิดการจับตัวกันเป็นผลึกเกาะติดตามข้อต่อของร่างกาย โดยเฉพาะในส่วนของข้อต่อเล็ก อย่างนิ้วมือ นิ้วเท้า เมื่อเกิดการจับตัวเช่นนั้น […]
ปัจจุบันนี้ มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องทุกข์ทรมาณกับความเจ็บปวดด้วยโรคเก๊าท์ แต่ในสมัยก่อนนั้น เคยมีผู้เรียกโรคเก๊าท์ว่าเป็น disease of king เป็นการเปรียบเปรยว่า เป็นโรคของกลุ่มคนที่กินดีอยู่ดีมากเกินไป ทุกวันนี้ คนเรากินดีอยู่ดีกันมากขึ้น โรคเก๊าท์ก็มากขึ้นตามไปด้วย อาการของโรคเก๊าท์ เกิดขึ้นเมื่อกรดยูริค ซึ่งเป็นสารเคมีในร่างกายของเรา มีปริมาณมากเกินไป และไปจับตัวกันบริเวณข้อต่อของร่างกาย เมื่อมากเกินไป ก็เกิดการอักเสบ ทำให้ผู้ป่วยเกิดความเจ็บปวดตามข้อ บางครั้งก็มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ มีอาการคล้าย ๆ กับไข้หวัด ในปี 2012 ARC หรือ American College of Rueumatology ได้กล่าวถึงแนวทางในการป้องกันและดูแลโรคเก๊าท์ว่า ผู้ที่มีความเสี่ยง ควรทราบถึงกุญแจสำคัญในการควบคุมโรคคือ ต้องรักษาระดับกรดยูริคไว้ไม่ให้เกิน 6.0 mg/dL ยิ่งผู้ป่วยรายใด มีอาการของโรคกำเริบขึ้นบ่อย […]
โรคเก๊าท์ เป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยมีความเจ็บปวดทุกข์ทรมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อโรคแสดงอาการออกมา แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่า เมื่ออาการของโรคสงบ แปลว่าโรคนั้นได้หายไปแล้ว ตรงกันข้าม โรคยังคงอยู่ แต่ไม่แสดงอาการเท่านั้น ผู้ป่วยโรคนี้ จึงต้องดูแลสุขภาพ เพื่อควบคุมไม่ให้อาการกำเริบ ทั้งการรับประทานยา การดำเนินชีวิต และการเลือกรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม โดยได้มีการศึกษาพบว่า การปรับพฤติกรรม โดยเฉพาะการรับเลือกประทานอาหาร สามารถช่วยให้อาการของผู้ป่วยโรคเก๊าท์ดีขึ้น การเลือกรับประทานอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์โรคเก๊าท์เกิดจากมีระดับของกรดยูริคในเลือกมากเกินไป ยูริกที่มากเกินไปนี้จะไปจะไปก่อตัวที่บริเวณข้อต่อของร่างกาย แล้วทำให้เกิดอาการอักเสบ ดังนั้น การลดปริมาณการรับประทานอาหารที่มีกรดยูริค จึงเป็นสิ่งสำคัญ อาหารที่มีปริมาณกรดยูริคสูง ได้แก่ สัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ อาหารทะเลอย่างเช่นปลา ปู หอย เนื้อสัตว์ที่มีไขมันมาก แอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเหล้า เบียร์ อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่นน้ำอัดลม อาหารที่มีกรดยูริคสูงเหล่านี้ ไม่ถึงกับห้ามรับประทาน แต่จะเป็นการดีหากสามารถจำกัดปริมาณได้ อีกทั้งอาหารบางอย่าง ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ผู้ป่วยบางคนรับประทานเข้าไป ทำให้อาการกำเริบ […]
แค่ได้ยินชื่อของโรคหลาย ๆ คนก็น่าจะรู้จักกันดีและร้อง อ๋อ เพราะโรคนี้เป็นโรคที่ได้ยินบ่อย ๆ ไม่ว่าจะจากที่ไหน และประเทศไทยยังเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีผู้ป่วยโรคเก๊าท์สูงที่สุด และค้นพบว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้ชายอายุตั้งแต่ 40-70 ปีอีกด้วย โดยโรคนี้มีอาการคือปวดตามข้อพับต่าง ๆ ปวดเมื่อยตามตัว รู้สึกอ่อนล้า เหนื่อยแรง แม้ว่าจะกินยาก็ไม่หายปวด ซึ่งเป็นอาการเริ่มแรกของโรคนี้ โดยเมื่อผ่านไประยะเวลานาน โรคอาจจะรุนแรงมากขึ้น มีโอกาสที่จะก่อให้เกิดภาวะปวดบวม มีอาการปูดบวมตามข้อต่าง ๆ เป็นโรคที่ดูผ่าน ๆ ไม่ได้น่ากลัวอะไร แต่ความจริงแล้วมีผลค่อนข้างร้ายแรง หลาย ๆ คนรู้จักโรคนี้ รู้จักถึงอาการของมัน แต่ไม่รู้ว่าสาเหตุคืออะไร วันนี้ เรามีคำตอบ การดื่มสุราหนัก โรคเก๊าท์นี้เกิดจากที่ร่างกายมีกรดยูริกมาเกินไปทำให้ไปอุดตันตามบริเวณข้อพับ และกระดูกต่าง ๆ ในร่างกายจนเกิดเป็นอาการปวด เมื่อนานเข้าอาจจะมีอาการปวดบวม ปูดนูนขึ้นมา โดยตัวกรดยูริกนี้เกิดจากที่ร่างกายเผาผลาญสารพิวรีน ซึ่งมักจะมาจากอาหาร โดยปกติเมื่อย่อยสลายสารพิวรีนแล้วได้กรดยูริกแล้ว ร่างกายจะขับกรดยูริดออกเองในรูปแบบของปัสสาวะ แต่หากร่างกายมีมากไปจนไม่สามารถขับออกได้ก็จะเข้าไปอุดตันตามข้อกระดูกนั่นเอง ซึ่งเหล้าหรือสุราเป็นเครื่องดื่มที่มีสารพิวรีนสูง และก่อให้เกิดกรดยูริกในร่างกายมากเกินความเป็น โดยนอกจากที่เหล้าจะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคเก๊าท์แล้ว เหล้ายังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โรคไต โรคเสพติดแอลกอฮอล์ […]
เก๊าท์ คืออะไร โรคทางกระดูกในปัจจุบันนี้มีมากมายหลายโรค เพราะคนไทยบางส่วนยังไม่ได้สนใจที่จะรักษาสุขภาพของตัวเองนัก อาจจะเพราะไม่มีเวลา หรืออาจจะเพราะความเคยชินบางอย่าง ทำให้ไม่ได้สนใจ หรือใส่ใจที่จะเริ่มดูแลตัวเองเท่าไหร่นัก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนไทย ไม่ว่าจะวัยไหน เริ่มที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกกันแล้ว แม้แต่วัยรุ่นเองก็เริ่มที่จะมีอาการปวดหลังหรืออาการต่าง ๆ โดยในวันนี้ เราจะขอนำเสนอ โรคที่หลาย ๆคนน่าจะเคยได้ยินชื่อ แต่ไม่ได้สนใจ ไม่ได้ใส่ใจมันซักเท่าไหร่ โดยโรคนี้เป็นโรคยอดฮิตของคนไทยหลาย ๆ คน โรคเก๊าท์ โรคเก๊าท์ คืออะไร โรคเก๊าท์ คือโรคทางกระดูกชนิดหนึ่ง เป็นโรคข้ออักเสบ ที่มีสาเหตุจาก ร่างกายของผู้ป่วยมีกรดยูริกสูงผิดปกติในเลือด ซึ่งสะสมมาเป็นระยะเวลานาน จนตัวกรดยูริกที่สะสมมานานนั้น ตกตระกอน ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณข้อพับต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งอาจจะใช้เวลานานมากกว่า […]