สารบัญ บทนำ ข้อบวมและปวดคืออะไร? สาเหตุที่ทำให้ข้อบวมและปวด โรคข้อเสื่อม โรคเก๊าท์ โรครูมาตอยด์ การบาดเจ็บหรืออักเสบจากการใช้งานข้อมากเกินไป อาการข้อบวมและปวดทำให้เดินไม่ได้เป็นเรื่องจริงหรือไม่? ระดับความรุนแรงของอาการ กรณีที่พบได้บ่อยและวิธีป้องกัน ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาการข้อบวมและปวด ความเชื่อเกี่ยวกับการรักษาแบบผิด ๆ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสาเหตุ วิธีการดูแลรักษาและบรรเทาอาการข้อบวมและปวด การรักษาทางการแพทย์ การดูแลตนเองที่บ้าน การป้องกันไม่ให้เกิดอาการข้อบวมและปวดจนถึงขั้นเดินไม่ได้ สรุปและคำแนะนำเพิ่มเติม 1.บทนำ อาการข้อบวมและปวดจนไม่สามารถเดินได้เป็นหนึ่งในอาการที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน หลายคนมักสงสัยว่าอาการเหล่านี้เป็นเรื่องจริงหรือเพียงแค่ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสุขภาพข้อและกล้ามเนื้อ ในบทความนี้เราจะมาพิจารณาอาการข้อบวมและปวดในเชิงลึก เพื่อช่วยให้เข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริง และวิธีดูแลรักษาเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบร้ายแรง 2.ข้อบวมและปวดคืออะไร? ข้อบวมและปวดเป็นภาวะที่พบได้ทั่วไปซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น โรคทางข้ออักเสบ โรคเก๊าท์ หรือการบาดเจ็บโดยตรงจากการใช้งานข้อมากเกินไป อาการนี้อาจทำให้เกิดความไม่สบายตัวและจำกัดการเคลื่อนไหวอย่างมาก 3.สาเหตุที่ทำให้ข้อบวมและปวด อาการข้อบวมและปวดอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งแต่ละสาเหตุมีลักษณะเฉพาะและวิธีการรักษาที่แตกต่างกันไป 3.1 โรคข้อเสื่อม โรคข้อเสื่อมเป็นการเสื่อมสภาพของข้อที่มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ ทำให้ข้อเสื่อมไม่สามารถรับน้ำหนักและการเคลื่อนไหวได้เหมือนเดิม ทำให้เกิดอาการบวมและปวด 3.2 โรคเก๊าท์ โรคเก๊าท์เป็นโรคที่เกิดจากการสะสมของกรดยูริกในข้อ ทำให้เกิดอาการปวดบวมที่รุนแรง โดยเฉพาะที่ข้อต่าง […]
Category Archives: บทความเกี่ยวกับโรคเก๊าท์
สารบัญ บทนำ: โรคเก๊าท์และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคอาหาร โรคเก๊าท์คืออะไร: กลไกการเกิดและปัจจัยเสี่ยง อาหารกับการเพิ่มระดับกรดยูริกในเลือด อาหารที่มีพิวรีนสูงและผลต่อโรคเก๊าท์ อาหารที่ส่งเสริมการขับกรดยูริกและลดความเสี่ยง การบริโภคแอลกอฮอล์กับโรคเก๊าท์ แนวทางการบริโภคอาหารเพื่อป้องกันโรคเก๊าท์ บทสรุป: การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเพื่อลดความเสี่ยงโรคเก๊าท์ คำถามที่พบบ่อย (Q&A) 1.บทนำ: โรคเก๊าท์และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคอาหาร โรคเก๊าท์ (Gout) เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่เกิดจากการสะสมของกรดยูริกในเลือดสูงขึ้นอย่างผิดปกติ จนตกผลึกกลายเป็นผลึกในข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้เกิดอาการอักเสบและเจ็บปวดอย่างเฉียบพลัน โรคนี้ถือเป็นหนึ่งในโรคเรื้อรังที่พบได้ทั่วไปในกลุ่มประชากรทั่วโลก โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ซึ่งมักจะได้รับผลกระทบจากโรคนี้มากขึ้น สาเหตุหลักของโรคเก๊าท์มาจากการมีระดับกรดยูริกในเลือดสูงเกินไป ซึ่งมีผลมาจากหลายปัจจัย เช่น การผลิตกรดยูริกมากเกินไป หรือการขับออกของกรดยูริกลดลงจากร่างกาย อย่างไรก็ตาม งานวิจัยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่า การบริโภคอาหารบางชนิดมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้ระดับกรดยูริกในเลือดสูงขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่มีสารพิวรีนสูง ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์กรดยูริกในร่างกาย อาหารและโรคเก๊าท์: ความเชื่อมโยงที่ควรระวังในอดีต การแพทย์และโภชนาการมักแนะนำให้ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเก๊าท์หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดที่มีพิวรีนสูง เช่น เนื้อสัตว์เครื่องใน อาหารทะเล และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทของอาหารในโรคเก๊าท์ได้พัฒนาไปมากขึ้น งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันได้เผยให้เห็นว่าอาหารบางประเภทนอกจากจะเพิ่มระดับกรดยูริกในเลือดแล้ว ยังสามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและสร้างผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอีกด้วย นอกจากนี้ อาหารยังส่งผลต่อการเผาผลาญพลังงานของร่างกายและการทำงานของไต ซึ่งทั้งสองระบบนี้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมและกำจัดกรดยูริกออกจากร่างกาย ความสำคัญของการเลือกอาหารในกลุ่มเสี่ยงการบริโภคอาหารที่เหมาะสมเป็นหนึ่งในวิธีที่สำคัญในการป้องกันการเกิดโรคเก๊าท์ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น […]
รู้หรือไม่ว่า “โรคเก๊าท์” คือสัญญาณเตือนอะไรในร่างกายเรา? สารบัญ บทนำ: โรคเก๊าท์กับความสำคัญในการดูแลสุขภาพข้อ กลไกการเกิดโรคเก๊าท์: บทบาทของกรดยูริกและปัจจัยเสี่ยง 2.1 กรดยูริกและกระบวนการเผาผลาญพิวรีน 2.2 ปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง อาการและการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่เกิดจากโรคเก๊าท์ 3.1 ลักษณะอาการของโรคเก๊าท์ 3.2 การสะสมของกรดยูริกในรูปของผลึก การตรวจวินิจฉัยโรคเก๊าท์: วิธีและหลักการที่ใช้ในทางการแพทย์ 4.1 การตรวจเลือดเพื่อวัดระดับกรดยูริก 4.2 การตรวจน้ำข้อและการถ่ายภาพรังสี แนวทางการรักษาและจัดการโรคเก๊าท์อย่างครบวงจร 5.1 การใช้ยาในการรักษา 5.2 การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต การป้องกันและวิธีลดความเสี่ยงการเกิดโรคเก๊าท์ 6.1 การบริโภคอาหารที่เหมาะสม 6.2 การออกกำลังกาย 6.3 การรักษาโรคเรื้อรังที่เกี่ยวข้อง การดูแลสุขภาพระยะยาวสำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์ 7.1 การดูแลตนเองเพื่อป้องกันการกำเริบ 7.2 การติดตามระดับกรดยูริกในเลือด สรุปและข้อเสนอแนะสำหรับการจัดการโรคเก๊าท์ 1.บทนำ: โรคเก๊าท์กับความสำคัญในการดูแลสุขภาพข้อ โรคเก๊าท์เป็นโรคที่เกิดจากการสะสมของกรดยูริกในรูปผลึกในข้อ โรคนี้เป็นที่รู้จักในทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบและปวดอย่างรุนแรงที่ข้อ ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม อาการของโรคอาจมีความรุนแรงขึ้นและนำไปสู่โรคข้ออักเสบเรื้อรังที่ยากต่อการรักษา นอกจากนี้ การที่กรดยูริกสะสมยังเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าระบบการเผาผลาญและขับของเสียในร่างกายอาจมีความบกพร่อง จึงทำให้โรคเก๊าท์เป็นสัญญาณเตือนสำคัญที่ควรได้รับการใส่ใจ 2.กลไกการเกิดโรคเก๊าท์: บทบาทของกรดยูริกและปัจจัยเสี่ยง 2.1 กรดยูริกและกระบวนการเผาผลาญพิวรีน […]
1. คำนำ: ทำความรู้จักกับโรคเก๊าท์ 2. โรคเก๊าท์คืออะไร? 3. สาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคเก๊าท์ 4. อาการของโรคเก๊าท์ 5. การวินิจฉัยโรคเก๊าท์ 6. การรักษาและการจัดการโรคเก๊าท์ การใช้ยาในการรักษาโรคเก๊าท์ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิต การออกกำลังกายและการควบคุมน้ำหนัก 7. โรคเก๊าท์มีโอกาสหายหรือไม่? 8. เคล็ดลับในการจัดการโรคเก๊าท์ในชีวิตประจำวัน อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงและอาหารที่แนะนำ การดูแลสุขภาพจิตใจ การตรวจสุขภาพและการพบแพทย์เป็นประจำ 9. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคเก๊าท์ 10. สรุป: การจัดการโรคเก๊าท์เพื่อชีวิตที่ดีกว่า ________________________________________ 1. ทำความรู้จักกับโรคเก๊าท์ โรคเก๊าท์เป็นโรคที่หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อเสียงกันมาบ้าง โรคนี้ส่งผลกระทบต่อข้อต่อในร่างกาย ทำให้เกิดอาการปวด บวม และแดงอย่างรุนแรง บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงโรคเก๊าท์อย่างลึกซึ้ง รวมถึงการรักษาและการจัดการโรคนี้ เพื่อให้คุณมีชีวิตที่ดีขึ้นและคำถามที่หลายคนสงสัยคือ “โรคเก๊าท์มีโอกาสหายหรือไม่?” เราจะมาตอบคำถามนี้ในบทความนี้ 2. โรคเก๊าท์คืออะไร? […]
1. [คำนำ] 2. [โรคเก๊าท์คืออะไร?] 3. [ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคเก๊าท์] 4. [อาการทั่วไปของโรคเก๊าท์] – [อาการเจ็บปวดที่ข้อต่อ] – [อาการบวมแดงที่ข้อต่อ] – [การเคลื่อนไหวที่จำกัด] 5. [วิธีการตรวจวินิจฉัยโรคเก๊าท์] 6. [วิธีการรักษาโรคเก๊าท์] – [การรักษาด้วยยา] – [การรักษาแบบไม่ใช้ยา] 7. [วิธีการป้องกันโรคเก๊าท์] 8. [บทสรุป] 9. [คำแนะนำเพิ่มเติม] คำนำ โรคเก๊าท์ (Gout) เป็นหนึ่งในโรคข้ออักเสบที่พบได้บ่อย และมักเกิดจากการสะสมของกรดยูริก (Uric acid) ในร่างกายที่มากเกินไป […]
โรคเกาต์ เป็นโรคข้ออักเสบที่เกิดมาจากร่างกายที่มีการสะสมของกรดยูริกอยู่ในเลือดสูงมากและสะสมมาเป็นเวลานาน จึงทำให้เกิดตกตะกอนจนกลายเป็นผลึกเกลือยูเรตที่บริเวณเนื้อเยื่อของข้อต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณข้อ และรอบ ๆ ข้อ เมื่อมีสาเหตุบางอย่างมากระตุ้นจะทำให้ข้ออักเสบอย่างฉับพลันและรุนแรง ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ระดับกรดยูริกในเลือดสูงส่วนหนึ่งมาจากกรรมพันธุ์ อายุมากขึ้นและการทำงานของไตลดลง หรือเกิดจากการที่เราใช้ยาบางชนิดรวมทั้งการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และสำหรับการรักษาโรคเกาต์ แพทย์จะให้ยา เพื่อรักษาอาการข้ออักเสบและช่วยลดระดับของกรดยูริกในเลือดให้ต่ำ เช่น ยาโคลซิซิน (Colchicine) เป็นยาที่เจาะจงในการใช้ โดยหลัก ๆ แล้ว เป็นการนำมาใช้ในการรักษาการอักเสบกับคนป่วยโรคเกาต์ ทั้งการรักษาในขณะที่อาการกำเริบอย่างเฉียบพลัน และใช้เป็นยาป้องกันอาการในระยะยาวด้วย วิธีการใช้ยาColchicine Colchicine สามารถใช้ได้ 2 แบบ คือ ทานยาเมื่อมีอาการแบบฉับพลัน ยาโคลซิซิน จะทำให้อาการข้ออักเสบหายได้ภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนกรณีที่ใช้เพื่อเป็นการป้องกัน ควรจะทานยาอย่างสม่ำเสมอและต้องตรงเวลา ยา Colchicine ให้ใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น เนื่องจากว่าผลข้างเคียงรุนแรงหากมีการใช้ยาเกินขนาดหรือใช้ยาร่วมกับยาบางชนิด อีกทั้งยังมีกลุ่มคนป่วยบางโรคที่ไม่สามารถใช้ยาชนิดนี้ได้อย่างเช่น โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร, หัวใจ, ไต และตับ รวมไปถึงหญิงที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ยาโคลชิซิน คือ ยาช่วยลดอาการอักเสบข้อจากโรคเกาต์ ทั้งแบบชนิดฉับพลันและใช้ในระยะยาว เพื่อเป็นการป้องกันอาการดังกล่าวด้วย แต่ยาชนิดนี้ไม่มีฤทธิ์ในการระงับอาการปวด เมื่อเริ่มมีอาการให้ใช้ยาทันทีฤทธิ์ยาจะออกได้ดีมาก ตัวยาจะมีผลข้างเคียงบางอย่างที่ค่อนข้างจะรุนแรง ก่อนใช้ยาจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อน […]
โรคเก๊าท์ เมื่อเป็นแล้วสามารถรักษาให้หายขาดได้ไหม? เป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้ เพราะภาพลักษณ์ของโรคนี้ คือ ใครเป็นแล้วจะต้องทุกข์ทรมาน ต้องอยู่กับอาการปวดๆ หายๆ ไปตลอดชีวิต แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านการแพทย์พัฒนาไปไกลมากแล้ว สามารถครอบคลุมถึงการรักษาโรคเก๊าท์หรือไม่ มาดูกัน ระยะของโรคเก๊าท์ อาการของโรคเก๊าท์นั้น แม้ว่ากว่าจะรู้จะมีอาการปวดข้อแบบฉับพลัน แต่อาการโดยรวมก็ยังมีระยะเติบโตของโรค ซึ่งแบ่งเป็นระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 เป็นช่วงที่ไม่มีอาการแสดงให้เห็น ต้องตรวจเลือดเท่านั้น จึงจะรู้ว่ามีกรดยูริคในเลือดสูงเกินมาตรฐานแล้ว นั่นคือเบื้องต้นของโรคเก๊าท์ ซึ่งโอกาสมักเกิดกับเพศชายมากกว่าเพศหญิง ระยะที่ 2 เริ่มเห็นอาการโรคเก๊าท์แสดงออกชัดเจน เพราะข้อจะบวมและปวดรุนแรงจากการอักเสบเฉียบพลัน ในระยะนี้ สามารถรักษาให้หายสนิทได้ ใช้เวลาเพียง 1-3 วันเท่านั้น แม้ปล่อยให้หายเองก็เป็นได้เช่นกัน แต่ต้องรอถึง 4-6 วัน ระยะที่ 3 คือ แม้เคยรักษาโรคเก๊าท์หายแล้ว แต่ไม่ได้หายขาด มีโอกาสกลับมาเป็นได้อีก บางคนเป็นๆ หายๆ อาจมีอาการกำเริบทุกปี ปีละครั้งหรือสองครั้ง และอาจมีอาการกลับมาถี่มากขึ้น เป็นปีละ 4-5 ครั้ง ระยะที่ 4 […]
กรดยูริคในร่างกายนั้น มีทั้งที่ร่างกายสร้างขึ้นเองและเกิดจากโรคภัยไข้เจ็บ โรคต่างๆ ที่ส่งผลให้ร่างกายขับกรดยูริคได้ไม่หมด จนเกิดกรดยูริคในเลือดสูงขึ้น เช่น โรคเก๊าท์ โรคเลือด โรคมะเร็ง โรคผิวหนัง ในการรักษาเช่น โรคเก๊าท์นั้น การทานยาลดกรดยูริคเป็นวิธีหนึ่ง แต่ถ้ารับประทานแล้ว มีอาการปวดกำเริบควรทำอย่างไร ลองมาดูกัน ยาลดกรดยูริคของคนเป็นโรคเก๊าท์ ยาลดกรดยูริคช่วยควบคุมอาการของโรคเก๊าท์ในระยะยาว ต้องทานตามคำแนะนำของแพทย์ ในปริมาณยาที่เหมาะสม ไม่เพิ่มปริมาณยาเองโดยพลการ แม้ว่าจะเป็นแนวทางหนึ่งของการรักษาแต่ก็อาจทำให้มีอาการปวดกำเริบขึ้นได้ ผลข้างเคียงของการใช้ยาลดกรดยูริค แม้ว่ายาลดกรดยูริค จะเป็นยาที่ช่วยในการควบคุมอาการของโรค แต่อาจจะส่งผลข้างเคียงบางประการ ซึ่งแต่ละอย่าง มีทั้งที่เป็นผลข้างเคียงทั่วไป และผลข้างเคียงที่ต้องดูเป็นพิเศษเพราะอาจเกิดอันตรายแก่คนไข้ได้ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ยาลดกรดยูริค ได้แก่ ปวดตามบริเวณข้อต่อ ข้อมือ ข้อเท้า ข้อเข่า ซึ่งเป็นบริเวณที่มีกรดยูริคสะสมอยู่ บางครั้งไม่ถึงกับปวดแต่จะมีอาการข้อยึด ตึง หรือข้อบวม มีอาการบวมบริเวณหน้า ริมฝีปาก เปลือกตา และมีอาการลมพิษ มีอาการข้างเคียงทางผิวหนัง คัน ผื่น หนังลอก มีตุ่มพอง มีอาการไข้ขึ้น และอาการข้างเคียงที่เป็นเบื้องต้นเช่น ปวดหัว […]
มีอาการนิ้วโป้งบวม มียูริคสูง ควรทำอย่างไร นิ้วโป้งบวมเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ การสะสมของยูริคอันเนื่องมาจากโรคเก๊าท์ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีอาการดังกล่าว เราควรทำอย่างไร ถ้ามีอาการนิ้วโป้งบวมจากกรดยูริคสูง มาดูกัน ยูริคสูงทำให้มีอาการนิ้วโป้งบวม เมื่อร่างกายมียูริคสูงเกินไปจนร่างกายขับออกทางปัสสาวะตามธรรมชาติไม่ทัน ซึ่งทุกคนมีโอกาสจะเกิดภาวะดังกล่าว เนื่องจากปกติกรดยูริคเป็นสิ่งที่ร่างกายจะผลิตขึ้นเองถึง 80% และเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีพิวรีนสูงอีก 20% ดังนั้น หากร่างกายขับยูริคไม่หมด กรดยูริคเหล่านั้นจะถูกสะสมเอาไว้ และมีการตกผลึกเกาะอยู่ตามอวัยวะส่วนต่างๆ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นข้อ ซึ่งข้อที่ผลึกยูริคจะเกาะก่อนข้ออื่นๆ คือ ข้อที่อวัยวะส่วนล่างสุดคือ ข้อที่โคนนิ้วโป้งเท้า รวมถึงนิ้วอื่นๆ และจะเพิ่มการสะสมไปยังข้อต่างๆ มากขึ้นๆ คนที่มีอาการนิ้วโป้งเท้าบวม จะมีอาการปวดแสบปวดร้อน จากอาการอักเสบ และอาจมีอาการข้อนิ้วปูดโปนขึ้นมา ข้อสังเกตกรณีนิ้วโป้งบวมจากยูริคสูง อาการนิ้วโป้งบวมนั้น อาจเกิดจากโรคอื่น เช่น รูมาตอยด์ อาการจะใกล้เคียง ต่างกันที่ถ้าเกิดจากโรคเก๊าท์ที่มีสาเหตุมาจจากยูริคสูงอาการปวดบวมจะค่อยๆ บวมเป็นจุดๆ ปวดทีละข้าง เน้นเป็นที่ข้อ […]
อาการปวดบวมที่ข้อเท้า เกิดจากหลายสาเหตุ และเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ต้องเร่งหาสาเหตุและแก้ไขแบบด่วน เพื่อไม่ให้อาการรุกลามมากขึ้น เพราะเท้าเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อชีวิตประจำวันของเรา โดยเฉพาะหากเกิดจากโรคเก๊าท์ แต่จะทราบได้อย่างไรว่าอาการปวดบวมที่ข้อเท้าที่เป็นอยู่นั้นมาจากโรคเก๊าท์หรือไม่ ลองมาดูกัน อาการปวดข้อเท้าโรคเก๊าท์เกิดจากอะไร อาการปวดข้อเท้าที่เกิดจากโรคเก๊าท์นั้น เป็นอาการข้ออักเสบอย่างหนึ่ง หากเป็นการอักเสบที่มาเกิดการสะสมของกรดยูริกในเลือดมากเกินไป การสะสมของยูริกต่อเนื่องเป็นเวลานานนั้น ทำให้เกิดผลึกเกาะอยู่ตามข้อต่อ ผลึกที่สะสมนั่นเองคือต้นเหตุทำให้เกิดอักเสบ บวมแดง แต่ต้องทราบก่อนว่า การเกิดขึ้นของยูริกในร่างกายเรานั้น เกิดขึ้นจาก ร่างกายของเราสร้างขึ้นเอง กล่าวคือ ยูริกประมาณ80 % ที่มีนั้นเกิดจากร่างกายสร้างขึ้นเอง การรับประทานอาหารที่มีพิวรีนสูง เป็นอีก20 % ที่ทำให้มียูริกสะสมในร่างกายมากจนร่างกายขับออกไม่หมด ก่อให้เกิดสะสมบริเวณกระดูกและข้อต่างๆ เมื่อสะสมจนเกิดเป็นผลึกเกาะตามข้อ บวมอักเสบ เป็นเหตุของโรคเก๊าท์ดังกล่าว อาการปวดบวมที่ข้อเท้าสงสัยว่าเป็นโรคเก๊าท์หรือไม่ หากมีอาการปวดบวมที่ข้อเท้า ต้องดูก่อนว่า มีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นหรือไม่ เกิดอุบัติเหตุที่กระทบกับข้อเท้าก่อนหรือไม่ ถ้าใช่ก็ไม่ใช่โรคเก๊าท์ มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีพิวรีนสูง ต่อเนื่องเป็นเวลานานหรือไม่ ถ้าใช่ ก็มีแนวโน้มว่า อาการปวดบวมข้อเท้านั้น อาจเกิดจากโรคเก๊าท์ พิจารณาจากอาการปวด เพราะปวดเก๊าท์จะมีอาการคือ ปวดบวม ปวดร้อน และอักเสบจนมีสีแดง เป็นการปวดแบบฉับพลัน ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า มีอาการรุนแรง ภายใน 24 ชั่วโมง […]