ออฟฟิศซินโดรม คือ อาการปวดเกิดจากการใช้งานบริเวณของกล้ามเนื้อที่เดิม ๆ และซ้ำ ๆ กันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน อย่างเช่น การที่เรานั่งทำงานอย่างต่อเนื่องกับคอมพิวเตอร์โดยที่เราไม่ได้ปรับเปลี่ยนกิริยาท่าทาง หรือว่าปรับเปลี่ยนอิริยาบถในการนั่ง จึงส่งผลทำให้เกิดการปวดสะสมมาเป็นเวลานาจนกลายเป็นปวดแบบเรื้อรังได้ในที่สุด ซึ่งอาการปวดที่เกิดขึ้นนี้ จะพบร่วมกันกับอาการชาที่บริเวณแขน, มือ และปลายนิ้ว เนื่องจากเส้นประสาทส่วนปลายในแต่ละตำแหน่งได้ถูกกดทับไว้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานทั้งนี้กล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเรามีลักษณะเป็นเส้นใยร้อยโยงต่อเนื่องกันหลายส่วน เมื่อกล้ามเนื้อของเราเริ่มมีการขมวดมัดกันจนเป็นปมขึ้น ก็จะทำให้ดึงรั้งกันไปมา ในตอนแรกอาการปวดตึงก็อาจจะเริ่มจากจุดหนึ่ง แต่พอเมื่อนานวันเข้าก็จะกลายเป็นร้าวไปปวดที่อีกจุดหนึ่ง เพราะการถูกดึงรั้งจากกล้ามเนื้อส่วนที่หดเกร็งนั่นเอง และกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็จะมีอาการปวดเป็นบริเวณกว้าง ๆ โดยที่ไม่สามารถจะระบุหาตำแหน่งที่ปวดจริง ๆ ไม่ได้เลย อาการของออฟฟิศซินโดรม เป็นเรื่องใกล้ตัว อาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด โดยเฉพาะปวดตรงบริเวณคอ, บ่า และสะบัก ซึ่งในบางครั้งก็อาจจะส่งผลทำให้เกิดอาการของระบบประสาทโดยอัตโนมัติร่วมด้วย อย่างเช่น อาจจะวูบ, มีเหงื่อออก, ตาเพรา, หูอื้อ, มึนงง และมีอาการชา เป็นต้น การอักเสบของเส้นเอ็นที่บริเวณข้อศอก, ข้อมือ และบริเวณนิ้วมือ เช่น เกิดการอักเสบที่บริเวณของเอ็นโค่นนิ้วโป้ง และทำให้นิ้วล็อคโดยปกติของคนที่ทำงานประจำในยุคนี้ ก็มักจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำงานได้ยาก เพราะจะต้องโฟกัสกับงานที่ทำอยู่ หรืออาจจะยุ่งจนลืมที่จะปรับเปลี่ยนกิริยาท่าทางและหยุดพักบ้าง เมื่อทำแบบนี้บ่อยครั้งจึงปล่อยให้อาการของโรคนี้อาการหนักมากขึ้น หรือว่าลุกลามไปยังบริเวณกล้ามเนื้อและระบบประสาทในส่วนอื่น […]
Category Archives: บทความเกี่ยวกับกระดูกและข้อ
โรคกล้ามเนื้ออักเสบ เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อลายและยังเป็นอวัยวะที่หนักถึง 40% ของน้ำหนักตัวเรา และมีถึง 696 มัด ซึ่งจะต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา โดยพบว่าประชากรทั่วไปประมาณ 30% ขึ้นไปจะมีอาการปวดที่มีสาเหตุเกิดมาจากกล้ามเนื้อ เป็นอาการปวดที่พบได้ในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นการทำงานทำกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้เกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อลายมัด จนทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง และฝ่อลีบ ถ้าหากมีความผิดปกติของผิวหนังร่วมด้วย ก็จะเรียกว่า “โรคผิวหนัง และกล้ามเนื้ออักเสบ” ปวด บวม แดง ร้อน หากมี 4 อาการนี้ อย่านวด หลายคนที่มีอาการปวดเมื่อยบางอย่างแน่นอน และมองข้ามว่าเป็นการปวดเมื่อยเพียงเล็กน้อยเดี๋ยวก็หาย แต่ถ้าหากอาการที่เริ่มเปลี่ยน จากแค่ปวดเมื่อยธรรมดาก็อาจจะกลายเป็นกลุ่มอาการของโรคแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออักเสบ มีหลาย ๆ คนที่ปวดเมื่อยก็ไปนวด มีบ้างคนนวดจะรู้สึกว่ามีก้อนแข็ง ๆ บริเวณบ่าบ้าง, สะบักบ้าง หรือที่บริเวณหลังส่วนล่าง ยิ่งเวลาที่คนนวดกดโดนจุดที่กำลังปวดเมื่อยจะรู้สึกดี แต่ก็มีหลายคนอาจจะมีอาการปวดมากขึ้นหลังนวด เช่น ปวด, บวม, แดง และร้อน การที่เรารักษาโดยการไปนวด อาจจะเป็นการรักษาที่ปลายเหตุเท่านั้น เพราะหากว่าคุณโชคดีเจอคนนวดเก่ง ๆ ก็ดีไป แต่ถ้าหากเกิดโชคร้ายอาการปวดที่เป็นอยู่อาจเพิ่มมากขึ้น คนที่ไปนวดแล้วดีขึ้นส่วนมากมักจะดีขึ้นชั่วครั้งชั่วคราวเดี๋ยวก็ต้องไปนวดซ้ำไปซ้ำมา […]
มีหลายคนที่มีอาการปวดหลัง, ปวดคอ และอาการปวดตามร่างกายอีกหลายแห่ง อาการปวดสามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ แล้วก็จะหายเองได้ภายในไม่กี่วัน แต่ถ้าหากเมื่อไหร่ที่มีอาการปวดหลังร้าวลงขา ร่วมกับอาการชาและกล้ามเนื้ออ่อนแรง การทรงตัวได้ไม่ดี, เดินได้ลำบาก และขาแข็งเกร็ง นั่นอาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงโรคหมอนรองกระดูกสันทับเส้นประสาท ซึ่งถ้าหากมีอาการดังกล่าวแล้วยังปล่อยทิ้งเอาไว้นาน อาจจะทำให้การรักษาด้วยยาเพียงอย่างเดียว หรือการทำกายภาพบำบัดจะไม่ได้ผลดีนัก และจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการผ่าตัดช่วยในการรักษาแทน อาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อาการปวดหลังที่เกิดจากสาเหตุหมอนรองกระดูกเคลื่อนไปทับเส้นประสาทแล้วล่ะก็จะทรมานมากเลยทีเดียวเพราะจะไม่มีเพียงแค่อาการปวดหลังเท่านั้น แต่มีสิ่งหนึ่งที่จะเป็นปัญหาได้มากก็คือ อาการปวดหลังจะร้าวลงไปจนถึงขา อาจจะปวดเพียงข้างเดียว หรือว่าอาจจะปวดทั้งสองข้างก็ได้ จะรู้สึกว่ากล้ามเนื้อขาอ่อนแรงจนไม่สามารถทำให้เดินได้อย่างปกติ จะมีอาการชาของขาหนึ่งข้าง หรือทั้งสองข้างก็ได้ ทำให้การเดินลำบาก หรืออาจจะเดินได้ไม่ไกลเท่าไหร่ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้อย่างไร สาเหตุของอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทหลัก ๆ ก็มาจากความเสื่อมของหมอนรองกระดูก และจากการใช้งานที่มีผลต่อกระดูกสันหลังโดยตรงเป็นเวลานานซ้ำ ๆ กัน อย่างเช่น การก้มหลังยกของที่หนักเกินไป, การขับรถเป็นเวลานาน, การทำกิจกรรมที่จะต้องก้ม ๆ เงย ๆ หลังเป็นประจำ, ได้รับอุบัติเหตุที่ไปกระทบกระเทือนต่อกระดูกสันหลังโดยตรง, การชอบก้มหลังพร้อมกับการบิดตัว หรือแม้แต่เสื่อมไปตามอายุ จนทำให้เกิดการฉีกขาดของเส้นใยของหมอนรองกระดูกสันหลัง และจะค่อย ๆ ดันตัวจนปลิ้นออกมาทำให้ไปกดเบียดเส้นประสาทที่อยู่ด้านหลัง พฤติกรรมที่เสี่ยงเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทที่ไม่ควรมองข้าม การก้ม ๆ […]
ข้อไหล่ติด เป็นอาการที่เกิดจากเนื้อเยื่อถุงหุ้มข้อไหล่เกิดการอักเสบหรือเกิดความผิดปกติ จนทำให้มีอาการปวดไหล่และขยับข้อไหล่ไม่ได้เลย ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาอาการปวดจะกลายเป็นเรื้อรังหลายปี ข้อไหล่ไม่สามารถที่จะฟื้นตัวและกลับมาใช้งานได้ตามปกติ และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันด้วย ฉะนั้นขอแนะนำให้ออกกำลังกายในท่าบริหารร่างกายที่สามารถทำเองง่าย ๆ ได้ที่บ้านเป็นท่าที่เน้นเฉพาะข้อไหล่ มีดังต่อไปนี้ การบริหารข้อไหล่ (กรณีข้อไหล่ติด) ท่าหมุนข้อไหล่ คือการยืนก้มหลังลงเล็กน้อย หรือว่านอนคว่ำอยู่บนเตียงแล้วก็ปล่อยแขนห้อยลงไปตรง ๆ ค่อย ๆ หมุนแขนเป็นวงกลม โดยหมุนเป็นวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ หมุน 10 รอบแล้วก็พักและทำซ้ำ 10 รอบ ท่าเคลื่อนไหวไหล่ทุกทิศทาง ให้ยกแขนไปด้านหน้า ให้ข้อศอกเหยียดตรง และยกสูงจนเสมอกันกับหัวไหล่ แล้วค้างไว้นับ 1-10 และทำซ้ำ 10 รอบ ให้ยกแขนไปด้านหลัง ข้อศอกต้องเหยียดตรง ยกให้สูงมากที่สุด ค้างไว้นับ 1-10 ทำซ้ำ 10 รอบ ยกแขนไปด้านข้าง ข้อศอกต้องเหยียดตรง กางแขนให้ได้มากที่สุดจนเสมอกันกับไหล่ และค้างไว้นับ 1-10 แล้วหุบแขนลงแนบกับลำตัวและทำซ้ำอีก 10 รอบ หุบแขนแนบกับลำตัว งอข้อศอกตั้งฉากให้มือชี้ตรงไปด้านหน้า […]
กล้ามเนื้ออักเสบ (Myositis) คือภาวะอักเสบที่มีผลต่อกล้ามเนื้อ ซึ่งจะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง และล้ามากหลังจากเดินหรือว่ายืนเป็นเวลานาน ๆ อาการเจ็บและบวมที่บริเวณกล้ามเนื้อ โดยอาจจะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ หรือกลายเป็นอาการเรื้อรัง แต่ทั้งนี้สาเหตุอาจจะเกิดมาจากการติดเชื้อ, เกิดจากการบาดเจ็บ, โรคภูมิคุ้มกันตัวเองบกพร่อง หรืออาจจะเป็นผลข้างเคียงจากการที่ใช้ยาก็ได้ และในปัจจุบันนี้ก็มีหลายคนที่มีปัญหาในเรื่องของอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ทำงานในออฟฟิศ สาเหตุก็มาจากท่านั่งทำงาน ที่ส่งผลทำให้เกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อเป็นก้อนเล็ก ๆ เรียกว่า Trigger Point หรือจุดกดเจ็บที่ซ่อนอยู่บริเวณของกล้ามเนื้อหรือเยื่อพังผืด อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง อาการแรกเริ่มของโรคกล้ามเนื้ออักเสบจะเหมือนกับอาการของไข้หวัดใหญ่ คือจะมีไข้, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ, ท้องเสีย, อาเจียน, อ่อนเพลีย, เจ็บหน้าอก, หัวใจจะเต้นช้า และผู้ป่วยบางคนถึงกับหายใจลำบากจนหมดสติเลยก็ได้ หรือคนที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อแบบเรื้อรัง ก็จะสามารถสังเกตอาการตัวเองได้ว่า ถ้ามีอาการปวดที่บริเวณกล้ามเนื้อ, ปวดร้าวลึก ๆ ที่บริเวณกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย, อาจจะปวดอยู่ตลอดเวลา หรือว่าปวดเฉพาะเวลาที่เอามือกดแล้วรู้สึกเจ็บ ความรุนแรงของอาการปวด จะเริ่มตั้งแต่ทำให้เรารำคาญไปจนถึงทำให้ทรมานจนเราไม่สามารถที่จะขยับบริเวณนั้นได้เลย ในบางรายอาจจะมีอาการมือชา, เท้าชา, ขาชาร่วมด้วย และในบางรายก็อาจจะมีอาการจนทำให้นอนหลับได้ยาก หรืออาจจะถึงขั้นนอนไม่หลับ และขั้นที่เลวร้ายที่สุดอาจจะลามไปถึงโรคที่เกี่ยวกับกระดูกได้เลยทีเดียว ซึ่งผู้ป่วยที่มีอาการหนักอาจจะทำให้เสียชีวิตในฉับพลันได้ โรคแทรกซ้อนของโรคกล้ามเนื้ออักเสบ ผู้ป่วยที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออักเสบในบางรายก็อาจจะมีการตอบสนองต่อการรักษาได้ไม่ดีเท่าไหร่ และมีผลกระทบในการดำเนินชีวิตประจำวันจากกล้ามเนื้ออักเสบที่เป็น รวมไปถึงภาวะไตวาย ที่อาจจะเกิดขึ้นได้หากผู้ป่วยได้รับน้ำไม่เพียงพอ ทั้งนี้โรคกล้ามเนื้ออักเสบที่เกิดขึ้นหลายแห่งและชนิดของโรคกล้ามเนื้ออักเสบร่วมกับผิวหนังอักเสบที่อาการรุนแรงอาจจะส่งผลต่อการหายใจและการกลืนอาหาร จนอาจจะต้องใช้การบำบัดในด้านการพูดและการใช้ภาษาหากอาการดังกล่าวจะทำให้มีผลต่อการสื่อสาร […]
กระดูกสันหลังของเราทุกคนจะมีเนื้อเยื่อที่อยู่ระหว่างของกระดูกสันหลังทุกข้อตั้งแต่คอไปจนถึงเอว กระดูกสันหลังจะทำหน้าที่คอยรองรับแรงกระแทก และยืดหยุ่นเวลาเราเคลื่อนไหวในทิศทางต่าง ๆ ถ้าหากไม่มีหมอนรองกระดูกสันหลัง การที่จะก้ม, เงย หรือการเคลื่อนไหวหลังก็จะไม่สะดวก โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน (Lumbar Disc Herniation) คือโรคที่พบได้บ่อยกับคนที่หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม เพราะว่าเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้นหมอนรองกระดูกที่เป็นหนึ่งของข้อต่อของกระดูกสันหลังก็จะเริ่มเสื่อมไปตามอายุ โดยส่วนใหญ่จะเริ่มเสื่อมที่อายุประมาณ 25-30 ปี ซึ่งในบางคนเมื่อหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม ก็จะมีเนื้อเยื่อหุ้มหมอนรองกระดูกเกิดการฉีกแยกจนทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อนออกมาและอาจจะไปกดทับเส้นประสาทส่วนมากแล้วจะเริ่มมีอาการปวดหลังนำมาก่อนแล้วถึงจะตามมาด้วยอาการปวดหลังร้าวลงไปที่ขา และอาจจะมีอาการชา, อ่อนแรง หรือการขับถ่ายผิดปกติร่วมด้วย โดยอาการส่วนมากมักจะสัมพันธ์กันกับการทำกิจกรรมและการใช้งานของหลังเป็นส่วนใหญ่ สาเหตุโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน เกิดจากการใช้งานและการทำกิจกรรมที่ทำเป็นประจำ อย่างเช่น การยกของหนักผิดท่าบ่อย ๆ, การนั่งทำงานด้วยท่าที่ไม่ถูกต้องเป็นระยะเวลานาน คนที่มีน้ำหนักตัวมากจนเกินไป เกิดจากการประสบอุบัติเหตุจนทำให้กระดูกสันหลังเกิดการบาดเจ็บ แนวทางในการรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน กรณีที่คนป่วยที่เป็นคนอายุน้อย ซึ่งมีการปลิ้นของหมอนรองกระดูกที่ไม่มาก ในทางการรักษาของแพทย์จะใช้วิธีการรักษาด้วยการให้ยาลดอาการปวด ซึ่งจะช่วยลดอาการอักเสบของเส้นประสาท และให้ทำกายภาพเพื่อที่จะให้หมอนรองกระดูกหดกลับเข้าไปได้ แต่ในกรณีที่หมอนรองกระดูกเคลื่อนไปทับเส้นเกิดกับคนที่อายุมาก ๆ ก็จะมีความเสื่อมเกิดขึ้นค่อนข้างมาก การให้ทำกายภาพเพื่อที่จะดึงหมอนรองกระดูกให้หดกลับเข้าไป หรือให้ยาเพื่อลดอาการปวดอาจจะส่งผลในทางรักษาให้ดีขึ้นได้ค่อนข้างน้อย เมื่อคนป่วยมีอาการตามที่ได้กล่าวมาแพทย์จะซักประวัติ ถึงระดับความอาการปวด เมื่อทานยาแล้วอาการดีขึ้น หรือไม่ ถ้าอาการดีขึ้นแพทย์ก็ไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัด แต่ถ้าทานยาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น จนทำให้รู้สึกรำคาญกับอาการปวด หรืออาจจะปวดมากก็จำเป็นจะต้องทำการผ่าตัด เพื่อนำหมอนรองกระดูกออก การผ่าตัดมี 2 วิธี คือ วิธีที่ 1 คือ การผ่าตัดแบบแผลเปิด […]
ข้อไหล่ เป็นข้อที่สำคัญของร่างกายไม่ต่างกับข้อเข่าเลย เพราะว่าเป็นข้อที่สามารถทำให้การเคลื่อนไหวได้ทุกทิศทาง และคล่องตัวอย่างมาก มีการทำงานร่วมกันกับส่วนประกอบต่าง ๆ ของร่างกายทำให้เราสามารถเคลื่อนไหว หรือใช้งานแขนของเราในการทำงาน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ หากข้อไหล่ได้รับบาดเจ็บหรือไม่สามารถที่จะใช้งานได้ อาจจะทำให้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน อาการปวดไหล่เป็นปัญหาที่พบได้มากที่สุดและบ่อยมากขึ้น โดยอาการอาจจะเกิดเป็นครั้งคราวหรือเรื้อรัง ถ้าหากมีอาการปวดไหล่ในระหว่างกำลังเอื้อมมือไปหยิบของจากที่สูง, เอื้อมมือไปรูดซิบด้านหลังเสื้อก็ไม่ได้, เอื้อมมือไปล้วงกระเป๋ากางเกงที่ด้านหลังได้ลำบาก, ยกแขนเพื่อสวมเสื้อไม่ได้ หรือแม้แต่ยกแขนขึ้นเพื่อสระผมตัวเองก็ทำลำบาก นั่นเป็นสัญญาณอันตรายเสี่ยงภาวะไหล่ติด ปวดไหล่ เกิดจากสาเหตุใดบ้าง การได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ จะทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาด, เส้นเอ็นฉีกขาด, กระดูกหัก หรือทำให้ข้อเคลื่อน การใช้ข้อไหล่ที่ไม่เหมาะสม จึงทำให้เกิดการอักเสบของเส้นเอ็นและบริเวณกล้ามเนื้อ หรือกล้ามเนื้อข้อไหล่เกิดการฉีกขาด การเสื่อมสภาพไปตามธรรมชาติของกระดูก, กล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ซึ่งจะพบกับผู้สูงอายุมากที่สุดทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ง่าย การติดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อวัณโรค โรคข้ออักเสบที่มีข้อไหล่อักเสบร่วมด้วยได้ อย่างเช่น โรครูมาตอยด์ และโรคเกาต์ เป็นต้น เส้นเอ็นอักเสบ และมีแคลเซียมมาเกาะ เมื่อทำการเอ็กซเรย์จะเห็นว่ามีหินปูนสีขาวเกาะอยู่บริเวณรอบ ๆ ข้อไหล่ ถุงน้ำที่ข้อไหล่เกิดการอักเสบ อาการปวดไหล่เป็นผลมาจากอาการปวดร้าวจากบริเวณอื่น หรือเกิดการอักเสบที่บริเวณใกล้เคียง อย่างเช่น กระดูกคอเสื่อม, กล้ามเนื้อหลังอักเสบ, เส้นประสารทเบรเคียลเกิดการอักเสบ, ถุงน้ำดีอักเสบ, […]
อาการปวดหลังโดยปกติแล้ว ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อ เช่น การยกของที่มีน้ำหนักมากเกินไป, นั่งทำงานนาน ๆ, ใส่รองเท้าส้นสูงเกินไป, เอื้อมมือหรือว่าเอี้ยวตัวไปหยิบของผิดท่า, การออกกำลังกายอย่างหนัก และการนั่งทำงานในท่าที่ไม่เหมาะสม อาจจะส่งผลทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย และทำให้กล้ามเนื้อผิดรูปได้ ท่านั่งแบบนี้อาจจะทำให้คุณปวดหลังแบบเรื้อรังได้ การนั่งเบาะไม่เต็มก้น คือ การนั่งแค่ครึ่งเบาะหลังไม่พิงพนักเก้าอี้ ทำให้หลังค่อม รวมไปถึงกล้ามเนื้อหลังทำงานหนักมากขึ้น นั่นก็เพราะก้นของเรารับรองน้ำหนักได้ไม่เต็มที่ การนั่งหลังค่อม คือ การนั่งหลังค่อมจะทำให้กระดูกสันหลังงอ ยิ่งถ้าเรายังนั่งอยู่ในท่าเดิมไปนาน ๆ โดนที่ไม่ขยับเลย ก็จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหลังเกร็งค้าง ทำให้เกิดอาการคั่งของกรดแลคติก จนเกิดอาการเมื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา และทำให้กระดูกคดงอผิดรูปถาวรได้ การนั่งไขว่ห้าง คือการที่เราลงน้ำหนักไปที่ขาและเท้าข้างใดข้างหนึ่ง เลือดตรงบริเวณขาจะไหลเวียนได้ไม่ดี จึงทำให้เมื่อย และก่อเป็นกล้ามเนื้อผิดรูป อาจจะทำให้กระดูกสันหลังคดงอ และทำให้เส้นประสาททำงานผิดปกติ รวมไปถึงหมอนรองกระดูกอาจจะเคลื่อนทับเส้นประสาทได้ การนั่งขัดสมาธิ จะทำให้เราเป็นเหน็บชา ยิ่งคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ หรือว่ามีปัญหาเรื่องกระดูกอยู่แล้ว ก็จะยิ่งทำให้เกิดข้อเข่าเสื่อมได้ การนั่งทับขาข้างใดข้างหนึ่ง ทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก เสี่ยงต่อกระดูกสะโพก รวมถึงกระดูกสันหลังคดงอได้เพราะข้อขาทั้งสองข้างไม่สมดุลกันนั่นเอง การนั่งพิมพ์โน๊ตบุ๊คที่วางบนตัก คือแป้นพิมพ์ และหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ต่ำจนเกินไป จะทำให้เราก้มมองจอ จึงมีอาการปวดคอ และปวดหลังโดยที่เราไม่รู้ตัว การนั่งผิดท่ามีผลเสียดังนี้ การนั่งผิดท่า คือ การที่เรานั่งนาน ๆ จะทำให้เสี่ยงที่จะมีโรคตามมาหลายโรค เช่น โรคอ้วน, โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด หรือแม้แต่โรคมะเร็งด้วย จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สำรวจพฤติกรรมของคนจำนวน 8,000 คน ชี้ให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ที่ใช้เวลากับการนั่ง เฉลี่ยอยู่ที่ 12.3 ชั่วโมงต่อวันนั้น ในช่วงระยะเวลา 4 ปีต่อมา จะมีคน 340 คนที่ต้องเสียชีวิตจากปัญหาของสุขภาพต่าง ๆ ดังนั้น จึงสามารถสรุปได้ว่า การที่เรานั่งนาน ๆ […]
บริเวณหัวไหล่ คือส่วนของข้อที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย และใช้เพื่อการทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมายในการดำเนินชีวิตประจำวัน อาทิเช่น การแต่งกาย, การทำความสะอาดร่างกาย, การทำงาน หรือการเล่นกีฬา ดังนั้นหากเกิดความผิดปกติขึ้นที่บริเวณหัวไหล่ จึงทำให้ส่งผลกับการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างยากลำบากมากขึ้น อาการปวดไหล่ จึงเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมากที่สุด โดยคนที่มีอาการปวดไหล่อาจจะปวดเป็นเวลาครั้งคราว หรืออาจจะปวดชนิดเรื้อรังคือจะปวดตลอดเวลาก็เป็นได้ โดยสาเหตุหลัก ๆ เกิดมาจากความผิดปกติของบริเวณข้อหัวไหล่เอง หรือความผิดปกติเกิดจากอวัยวะข้างเคียงก็ได้ จึงทำให้เกิดอาการปวดร้าวมาที่บริเวณหัวไหล่ อย่างเช่น ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด, วัณโรคปอด, หรือว่ากระดูกที่บริเวณต้นคอเสื่อม เป็นต้น ภาวะข้อไหล่ติดแข็ง (Frozen shoulder) ภาวะชนิดนี้สามารถพบได้บ่อยที่สุดในคนที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ส่วนมากผู้หญิงจะมีโอกาสเป็นมากกว่าผู้ชาย คนที่ใช้งานที่บริเวณหัวไหล่อย่างหนัก, คนที่เคยผ่าตัดหรือว่าได้รับอุบัติเหตุที่บริเวณหัวไหล่เป็นต้น อาการก็จะเริ่มจากเจ็บที่บริเวณข้อไหล่เป็นระยะเวลานานหลายสัปดาห์ หรืออาจจะนานเป็นเดือน และจะมีอาการปวดเพิ่มมากขึ้นเมื่อเคลื่อนไหวแขนและหัวไหล่ หลังจากนั้นอาการปวดก็จะเริ่มลดลง และสามารถเคลื่อนไหวหรือว่าขยับ ข้อไหล่ได้ดีขึ้น จนทำให้เราเข้าใจว่าอาการปวดหัวไหล่ดีขึ้นแล้ว แต่ถ้าหากว่าเราสังเกตให้ดีก็จะพบว่าหลังจากอาการปวดดีขึ้นแล้ว การเคลื่อนไหวของแขนและหัวไหล่อาจจะทำได้ไม่เต็มที่เหมือนเดิม ฉะนั้นภาวะข้อไหล่ติดแข็ง จะพบอาการปวดที่บริเวณไหล่สัมพันธ์กันกับการมีผลึกหินปูนหรือว่าแคลเซียมสะสมอยู่ภายในบริเวณเอ็นต่าง ๆ ซึ่งอาการปวดก็อาจจะเป็นแบบฉับพลันและมีความรุนแรงมาก จนทำให้เราไม่สามรถยกไหล่ขึ้นได้ หรือในบางรายอาจจะปวดแบบเรื้อรัง ซึ่งเกิดมาจากการสะสมของผลึกหินปูนอยู่ภายในเส้นเอ็นด้วย โดยเฉพาะในเส้นเอ็นที่บริเวณหัวไหล่ที่เรียกว่า Supraspinatus […]
อาการปวดหลังจะพบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย และทุกกลุ่มผู้ป่วยบางรายอาจจะมีอาการที่รุนแรงจนมีผลกระทบกับการทำงาน รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันด้วย อาการปวดหลังเกิดมาจากการอักเสบของบริเวณกล้ามเนื้อ อาจจะเกิดมาจากการใช้กล้ามเนื้อตรงบริเวณนั้นมากจนเกินไป หรือว่าได้รับอุบติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็อาจจะหายเองได้หากงดเว้นการใช้กล้ามเนื้อตรงบริเวณที่เกิดการอักเสบสักพัก หรือว่าใช้ยาทาภายนอกที่สามารถช่วยลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ แต่หากมีอาการปวดหลังที่พ่วงมาด้วยอาการอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ให้คุณรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียด มีอาการปวดที่บริเวณเดิม ๆ เป็นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 1 เดือน มีอาการปวดมากจนทำให้รู้สึกถึงความผิดปกติ อาการไม่ดีขึ้นเลย มีอาการปวดแบบเจ็บแปลบ ๆ เหมือนมีเข็มมาจิ้มตรงบริเวณที่มีอาการ อาการปวดร้าวยาวลงไปถึงต้นขา หรืออาจจะมีอาการขาอ่อนแรง, ปวดที่บริเวณปลีน่อง จนทำให้ไม่สามารถที่จะเดินได้ตามปกติ หรืออาจจะเดินได้นิดหน่อยก็เกิดอาการปวด ปวดตรงบริเวณก้นกบ โดยที่ไม่มีสาเหตุหรือว่ามาจากอุบัติเหตุใด ๆ อาการปวดหลังที่เกิดมาจากอุบัติเหตุที่รุนแรง อย่างเช่น อุบัติเหตุจราจร หรือตกจากที่สูงลงมา เกิดอาการปวดปัสสาวะแสบขัด, ปัสสาวะมีสีขุ่น หรืออาจจะมีไข้ร่วมกับอาการปวดที่หลังตรงบริเวณเอว (อาการแบบนี้อาจจะเป็นอาการเริ่มต้นของนิ่วในไต หรือว่าไตอักเสบ) มีอาการปวดต้นขา หรือบริเวณเท้ามีอาการชาทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้ตามปกติ อย่างเช่น ก้มตัว, ยืดตัวตรง, กลั้นปัสสาวะ หรืออุจจาระเริ่มไม่ค่อยอยู่ ดังนั้นท่านใดที่มีอาการตามที่กล่าวมา หรือมีคนที่ใกล้ชิด หรือเวลาหยุดทานยาอาการปวดก็จะกลับมาปวดใหม่อีกไม่หายสักที คุณต้องรีบไปปรึกษาแพทย์และให้แพทย์ทำการตรวจโดยละเอียด เพื่อที่จะหาสาเหตุของอาการที่แท้จริง และจะได้แก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุจะเป็นการดีที่สุด เพราะว่าถึงคุณจะทานยาคลายกล้ามเนื้อ […]