กรดยูริคในร่างกายนั้น มีทั้งที่ร่างกายสร้างขึ้นเองและเกิดจากโรคภัยไข้เจ็บ โรคต่างๆ ที่ส่งผลให้ร่างกายขับกรดยูริคได้ไม่หมด จนเกิดกรดยูริคในเลือดสูงขึ้น เช่น โรคเก๊าท์ โรคเลือด โรคมะเร็ง โรคผิวหนัง ในการรักษาเช่น โรคเก๊าท์นั้น การทานยาลดกรดยูริคเป็นวิธีหนึ่ง แต่ถ้ารับประทานแล้ว มีอาการปวดกำเริบควรทำอย่างไร ลองมาดูกัน ยาลดกรดยูริคของคนเป็นโรคเก๊าท์ ยาลดกรดยูริคช่วยควบคุมอาการของโรคเก๊าท์ในระยะยาว ต้องทานตามคำแนะนำของแพทย์ ในปริมาณยาที่เหมาะสม ไม่เพิ่มปริมาณยาเองโดยพลการ แม้ว่าจะเป็นแนวทางหนึ่งของการรักษาแต่ก็อาจทำให้มีอาการปวดกำเริบขึ้นได้ ผลข้างเคียงของการใช้ยาลดกรดยูริค แม้ว่ายาลดกรดยูริค จะเป็นยาที่ช่วยในการควบคุมอาการของโรค แต่อาจจะส่งผลข้างเคียงบางประการ ซึ่งแต่ละอย่าง มีทั้งที่เป็นผลข้างเคียงทั่วไป และผลข้างเคียงที่ต้องดูเป็นพิเศษเพราะอาจเกิดอันตรายแก่คนไข้ได้ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ยาลดกรดยูริค ได้แก่ ปวดตามบริเวณข้อต่อ ข้อมือ ข้อเท้า ข้อเข่า ซึ่งเป็นบริเวณที่มีกรดยูริคสะสมอยู่ บางครั้งไม่ถึงกับปวดแต่จะมีอาการข้อยึด ตึง หรือข้อบวม มีอาการบวมบริเวณหน้า ริมฝีปาก เปลือกตา และมีอาการลมพิษ มีอาการข้างเคียงทางผิวหนัง คัน ผื่น หนังลอก มีตุ่มพอง มีอาการไข้ขึ้น และอาการข้างเคียงที่เป็นเบื้องต้นเช่น ปวดหัว […]
Author Archives: drsutt
มีอาการนิ้วโป้งบวม มียูริคสูง ควรทำอย่างไร นิ้วโป้งบวมเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ การสะสมของยูริคอันเนื่องมาจากโรคเก๊าท์ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีอาการดังกล่าว เราควรทำอย่างไร ถ้ามีอาการนิ้วโป้งบวมจากกรดยูริคสูง มาดูกัน ยูริคสูงทำให้มีอาการนิ้วโป้งบวม เมื่อร่างกายมียูริคสูงเกินไปจนร่างกายขับออกทางปัสสาวะตามธรรมชาติไม่ทัน ซึ่งทุกคนมีโอกาสจะเกิดภาวะดังกล่าว เนื่องจากปกติกรดยูริคเป็นสิ่งที่ร่างกายจะผลิตขึ้นเองถึง 80% และเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีพิวรีนสูงอีก 20% ดังนั้น หากร่างกายขับยูริคไม่หมด กรดยูริคเหล่านั้นจะถูกสะสมเอาไว้ และมีการตกผลึกเกาะอยู่ตามอวัยวะส่วนต่างๆ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นข้อ ซึ่งข้อที่ผลึกยูริคจะเกาะก่อนข้ออื่นๆ คือ ข้อที่อวัยวะส่วนล่างสุดคือ ข้อที่โคนนิ้วโป้งเท้า รวมถึงนิ้วอื่นๆ และจะเพิ่มการสะสมไปยังข้อต่างๆ มากขึ้นๆ คนที่มีอาการนิ้วโป้งเท้าบวม จะมีอาการปวดแสบปวดร้อน จากอาการอักเสบ และอาจมีอาการข้อนิ้วปูดโปนขึ้นมา ข้อสังเกตกรณีนิ้วโป้งบวมจากยูริคสูง อาการนิ้วโป้งบวมนั้น อาจเกิดจากโรคอื่น เช่น รูมาตอยด์ อาการจะใกล้เคียง ต่างกันที่ถ้าเกิดจากโรคเก๊าท์ที่มีสาเหตุมาจจากยูริคสูงอาการปวดบวมจะค่อยๆ บวมเป็นจุดๆ ปวดทีละข้าง เน้นเป็นที่ข้อ […]
อาการปวดบวมที่ข้อเท้า เกิดจากหลายสาเหตุ และเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ต้องเร่งหาสาเหตุและแก้ไขแบบด่วน เพื่อไม่ให้อาการรุกลามมากขึ้น เพราะเท้าเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อชีวิตประจำวันของเรา โดยเฉพาะหากเกิดจากโรคเก๊าท์ แต่จะทราบได้อย่างไรว่าอาการปวดบวมที่ข้อเท้าที่เป็นอยู่นั้นมาจากโรคเก๊าท์หรือไม่ ลองมาดูกัน อาการปวดข้อเท้าโรคเก๊าท์เกิดจากอะไร อาการปวดข้อเท้าที่เกิดจากโรคเก๊าท์นั้น เป็นอาการข้ออักเสบอย่างหนึ่ง หากเป็นการอักเสบที่มาเกิดการสะสมของกรดยูริกในเลือดมากเกินไป การสะสมของยูริกต่อเนื่องเป็นเวลานานนั้น ทำให้เกิดผลึกเกาะอยู่ตามข้อต่อ ผลึกที่สะสมนั่นเองคือต้นเหตุทำให้เกิดอักเสบ บวมแดง แต่ต้องทราบก่อนว่า การเกิดขึ้นของยูริกในร่างกายเรานั้น เกิดขึ้นจาก ร่างกายของเราสร้างขึ้นเอง กล่าวคือ ยูริกประมาณ80 % ที่มีนั้นเกิดจากร่างกายสร้างขึ้นเอง การรับประทานอาหารที่มีพิวรีนสูง เป็นอีก20 % ที่ทำให้มียูริกสะสมในร่างกายมากจนร่างกายขับออกไม่หมด ก่อให้เกิดสะสมบริเวณกระดูกและข้อต่างๆ เมื่อสะสมจนเกิดเป็นผลึกเกาะตามข้อ บวมอักเสบ เป็นเหตุของโรคเก๊าท์ดังกล่าว อาการปวดบวมที่ข้อเท้าสงสัยว่าเป็นโรคเก๊าท์หรือไม่ หากมีอาการปวดบวมที่ข้อเท้า ต้องดูก่อนว่า มีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นหรือไม่ เกิดอุบัติเหตุที่กระทบกับข้อเท้าก่อนหรือไม่ ถ้าใช่ก็ไม่ใช่โรคเก๊าท์ มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีพิวรีนสูง ต่อเนื่องเป็นเวลานานหรือไม่ ถ้าใช่ ก็มีแนวโน้มว่า อาการปวดบวมข้อเท้านั้น อาจเกิดจากโรคเก๊าท์ พิจารณาจากอาการปวด เพราะปวดเก๊าท์จะมีอาการคือ ปวดบวม ปวดร้อน และอักเสบจนมีสีแดง เป็นการปวดแบบฉับพลัน ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า มีอาการรุนแรง ภายใน 24 ชั่วโมง […]
โรคพาร์กินสัน เป็นโรคที่เกิดจากสมองเสื่อมสภาพที่นอกเหนือจากโรคอัลไซเมอร์ และยังมีโรคอื่นที่เกี่ยวข้องกับสมองที่ส่งผลกับร่างกายทำให้มีอาการสั่นเกร็งตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อีกทั้งมีผลต่อการเคลื่อนไหว นั่นก็คือ โรคพาร์กินสัน เป็นโรคที่เกิดจากเซลล์สมองในส่วนของบริเวณก้านสมองส่วนกลาง ถูกทำลายไปทีละน้อย จนทำให้เกิดความเสียหาย โรคนี้จะเกิดกับผู้สูงอายุ และจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยที่ครอบครัวผู้สูงอายุควรจะต้องมีความรู้ และทำความเข้าใจกับโรคนี้ เพราะว่าโรคนี้ต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิด อาการของโรคพาร์กินสัน โรคพาร์กินสันโดยทั่วไปแล้วโรคนี้จะแสดงอาการออกมามาก หรือน้อยแตกต่างกันออกไป ต้องขึ้นอยู่กับสาตุหลาย ๆ อย่าง แต่ที่อาการเป็นเหมือนกัน ก็คือ โรคพาร์กินสันนี้จะค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป จะไม่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันเหมือนโรคทางสมองชนิดอื่น ๆ และอาการนี้จะเป็นมากขึ้นไปด้วยถ้าหากว่าปล่อยไว้นานเกินไป โดยอาการที่จะแสดงออกมีอาการดังต่อไปนี้ อาการสั่นเกร็ง จะมีอาการที่นิ้วมือ, แขน และขา ถ้าหากไม่ได้เคลื่อนไหวจะเกิดอาการสั่น และจะไม่สามารถควบคุมอาการได้ เมื่อเริ่มทำกิจกรรมอาการสั่นก็จะลดลง หรืออาจจะหายไป และอาจจะปวดกล้ามเนื้อร่วมด้วย เคลื่อนไหวช้า ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะใช้เวลานานในการเคลื่อนไหว หรือช้ากว่าคนปกติทั่วไป ทำให้ลำบากในการชีวิตประจำวัน และอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมา การแสดงสีหน้าเหมือนใส่หน้ากาก คนป่วยจะมีสีหน้าที่เฉยเมยเวลาพูดคุยมุมปากก็จะยกขึ้นเพียงเล็กน้อยทำเหมือนคนไม่มีอารมณ์ร่วมด้วย ท่าเดินผิดปกติ คนป่วยจะก้าวเดินได้เพียงก้าวสั้น ๆ ในช่วงระยะแรก และจะค่อย ๆ ก้าวยาวขึ้น […]
โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกส่วนในร่างกาย อาการที่จะแสดงออกมาก็มีตั้งแต่ส่วนบนเริ่มจากใบหน้า ไปจนถึงขา อาการที่เกิดขึ้นจะมีอาการดังต่อไปนี้ บริเวณหนังตาตก, จะมองไม่ชัด และจะมองเห็นเกิดเป็นภาพซ้อน กลืนลำบาก, สำลักบ่อย, ลิ้นอ่อนแรง, หายใจได้ไม่สะดวก, พูดไม่ค่อยชัด และออกเสียงไม่ได้ บริเวณแขน ขาจะไม่มีแรง, ไม่สามารถยกแขนขึ้นได้, เดินสะดุด และเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ตามปกติ กล้ามเนื้อบางในส่วนเกิดการกระตุกหรืออาจจะเป็นตะคริวบ่อย โดยเฉพาะตรงบริเวณมือ และเท้า ในกรณีบางรายโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงทำให้หายใจตื้น หายใจไม่สะดวก นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้ การดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ, ไม่เครียด และไม่หดหู่ ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า หรือแบบอัตโนมัติ เพื่อเป็นการช่วยปฏิบัติกิจวัตรประจำวันให้ดำเนินไปได้สะดวกขึ้น และเพื่อเป็นการผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้ อย่างเช่น การแปรงสีฟันด้วยไฟฟ้า การทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ควรจะเน้นอาหารเป็นชนิดอ่อน ๆ เพื่อให้เคี้ยวง่าย ทำการฝึกฝนตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างราบรื่น อาทิเช่น การฝึกเดิน, ฝึกพูด และฝึกการกลืนอาหาร คอยสังเกตอาการของตัวเองจากอาการเริ่มแรกที่เป็น ว่ามีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงมากขึ้นหรือไม่ เมื่อเปรียบเทียบกับอาการที่ผ่านมาและต้องศึกษาข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่ง ว่าอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน หรือว่าอยู่ในระดับใด […]
โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าเป็นโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อเพียงอย่างเดียว แต่ความเป็นจริงแล้ว โรคนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบประสาทที่ส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ประสาทที่อยู่ในสมองและไขสันหลัง โดยโรคนี้จะค่อย ๆ เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ จนตัวเราไม่อาจจะรู้ตัว และอาการจะค่อย ๆ รุนแรงขึ้นจนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ สาเหตุของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเกิดจากเซลล์ประสาทที่เสื่อมสภาพลงทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงลงไปด้วย ซึ่งเซลล์ประสาทของส่วนนี้จะคอยทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย โรคนี้เกิดมาจากหลาย ๆ สาเหตุจนก่อให้เกิดโรคร่วมกัน อาทิเช่น ทางพันธุกรรม ทางสิ่งแวดล้อม โดยคนป่วยอาจจะมีประวัติสัมผัสกับโลหะ หรือว่าสารเคมีบางชนิดที่สามารถทำให้ส่วนประสาทนำคำสั่งทำให้เกิดการทำงานที่ผิดปกติ อันตรายของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นตัวอันตรายเงียบ ๆ คือตัวคนป่วยยังคงทำกิจวัตรประจำวัน หรือใช้ชีวิตต่าง ๆ ได้เป็นปกติในช่วงระยะแรก ๆ ของวัน แต่หลังจากนั้นก็จะค่อย ๆ อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงก็จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งถ้าหากคนป่วยได้หยุดผักการใช้กล้ามเนื้อตรงบริเวณนั้นไปชั่วขณะ ก็จะสามารถช่วยฟื้นฟูให้กล้ามเนื้อกลับมาใช้งานได้ตามปกติเช่นเดียวกัน แต่จะดีกว่าถ้าหากว่าคนป่วยไม่ปล่อยให้อาการของกล้ามเนื้ออ่อนแรงเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ชนิดเรื้อรัง เพราะความรุนแรงของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น […]
โรคเกาต์ เป็นโรคเกี่ยวกับข้อและอาการปวดข้อที่หลากหลาย ข้อต่อบางชนิดสามารถทำให้ข้ออักเสบได้ แต่บางชนิดอาจไม่เป็นเช่นนั้น โรคเกาต์เป็นอาการทั่วไปของโรคข้ออักเสบ เกิดมาจากกรดยูริกที่สะสมเป็นเวลานานจนทำให้ตกผลึก โรคข้ออักเสบจะมีอาการเจ็บปวดมาก มักจะส่งผลกระทบต่อข้อต่อในแต่ละครั้ง (มักจะเป็นข้อต่อหัวแม่เท้า) มีบางครั้งที่อาการแย่ลงหรือที่เรียกว่าอาการวูบวาบ และหลายครั้งที่ไม่มีอาการหรือที่เรียกว่าบรรเทาลง โรคเกาต์ที่เกิดซ้ำๆ อาจนำไปสู่โรคข้ออักเสบจากเกาต์ ซึ่งเป็นอาการของโรคข้ออักเสบที่เลวลง โรคเกาต์ทำให้เกิดอาการปวดและบวมในข้อหนึ่งข้อหรือมากกว่า มักจะส่งผลต่อหัวแม่เท้า และยังพบได้ในข้อต่ออื่น ๆ เช่น บริเวณหัวเข่า, ข้อเท้า, เท้า, มือ, ข้อมือ และข้อศอก อาการของโรคเกาต์กำเริบบ่อยแค่ไหน การกำเริบของโรคเกาต์นั้นจะเจ็บปวดมากและสามารถเกิดขึ้นได้อย่างกะทันหัน และบ่อยครั้งในเพียงชั่วข้ามคืน ในระหว่างที่อาการของโรคเกาต์กำเริบอย่างกะทันหันนั้น คนที่เป็นโรคเกาต์จะมีอาการปวด บวมแดง หรือร้อนตรงบริเวณข้อต่ออย่างฉับพลันทันทีทันใด อาการปวดร้อนเหล่านี้จะตามมาด้วยการบรรเทาอาการเป็นเวลานาน อย่างเช่น เป็นอาทิตย์, เป็นเดือน หรืออาจจะเป็นปี โดยจะไม่แสดงอาการก่อนที่จะเกิดอีก โรคเกาต์มักจะเกิดขึ้นครั้งละหนึ่งข้อเท่านั้น มักพบในนิ้วหัวแม่เท้า นอกจากนิ้วหัวแม่เท้าแล้ว ข้อต่อที่จะได้รับผลกระทบทั่วไปก็คือข้อต่อ ข้อเท้า เข่า และข้อมือ ซึ่งอาการจะเป็น ๆ หาย ๆ ในระยะแรก โรคเกาต์หากไม่ได้รับการรักษาหรือดูแลได้อย่างถูกต้อง อาการข้ออักเสบก็จะรุนแรงมากยิ่งขึ้นจนทำให้ผู้ป่วยปวดถี่ขึ้นและนานมากขึ้นจนอาจจะกลายเป็นโรคข้ออักเสบชนิดเรื้อรัง และอาจจะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา เช่น โรคไต นิ่วในทางเดินปัสสาวะ และไตวาย บางคนที่มีโรคเกาต์กำเริบบ่อยครั้ง หากไม่รักษาโรคเกาต์ อาการเจ็บปวดอาจเกิดบ่อยขึ้น และยาวนานขึ้น โรคเกาต์กำเริบอาจเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในข้อต่อเดียวกันหรืออาจจะส่งผลต่อบริเวณข้อต่อต่าง ๆ เป็นต้น ดังนั้นคนที่ทานอาหารจำพวกโปรตีนหรือสารพิวรีนสูง […]
ในร่างกายของเราสามารถสร้างกรดยูริกในขบวนการย่อยสลายของสารพิวรีนที่สามารถพบได้ในอาหาร และเครื่องดื่มบางชนิด เป็นผลมาจากการที่กรดยูริกในเลือดได้มีการกรองผ่านไต และทำการขับออกทางไตผ่านการปัสสาวะ เมื่อร่างกายผลิตกรดยูริกมากเกินไป ทำให้ไตไม่สามารถที่จะขับกรดยูริกได้ดี จึงทำให้ร่างกายมีกรดยูริกในเลือดสูง และผลึกของกรดยูริกจะไปตกที่บริเวณข้อต่อต่าง ๆ ทำให้เกิดโรคเกาต์ตามมา แต่จะอย่างไรก็ตาม ก็มีอีกหลายคนที่มีรกรดยูริกในเลือดสูงไม่เคยเป็นโรคเกาต์ก็มี โรคเกาต์มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันในหลาย ๆ ด้าน รวมไปถึงการทำงานและการพักผ่อน แต่เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเมื่อเป็นโรคเกาต์ได้ เช่น การทานอาหารเพื่อสุขภาพเพื่อหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจจะไปกระตุ้นให้เกิดโรคเกาต์ รวมถึงอาหารที่มีสารพิวรีนสูง อย่างเช่น อาหารที่มีเนื้อแดง เครื่องใน อาหารทะเล และต้องลดปริมาณในการดื่มประเภทแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเบียร์ และสุราเป็นต้น เรียนรู้การจัดการตนเอง ศึกษาข้อมูลในการจัดการตนเอง ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบ และโรคเกาต์ เข้าใจว่าโรคข้ออักเสบจะส่งผลกระทบต่อชีวิตอย่างไรบ้าง การออกกำลังกาย การออกกำลังกายอย่างน้อย 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ การทำกิจกรรมทุกนาทีมีค่า และการทำกิจกรรมอะไรก็ตาม ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย กิจกรรมที่เบาไม่ต้องออกแรงมากที่ขอแนะนำ ได้แก่ การเดิน, การว่ายน้ำ, การปั่นจักรยาน หรือกิจกรรมที่มีแรงกระแทกต่ำเหล่านี้มีความเสี่ยงต่ำที่จะทำให้ได้รับบาดเจ็บ และอย่าบิดหรือทำให้ข้อต่อตึงมากจนเกินไป เพราะว่าการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังชนิดอื่น ๆ ได้ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคเบาหวานได้ พบแพทย์ คุณสามารถควบคุมโรคข้ออักเสบของคุณโดยการไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพประจำปี การลดน้ำหนัก สำหรับคนที่มีน้ำหนักมากเกิน หรือว่าเป็นโรคอ้วน การลดน้ำหนักจะเป็นการช่วยลดแรงกดตรงบริเวณข้อต่อ โดยเฉพาะข้อต่อที่ต้องรับน้ำหนัก อย่างเช่น สะโพกและหัวเข่า การเข้าถึงหรือรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติสามารถช่วยบรรเทาอาการปวด […]
”กินสัตว์ปีกเยอะระวังจะเป็นเกาต์นะ” ประโยคนี้ที่เราได้ยินกันจนชินจากคนรอบตัวเรา จนทำให้หลาย ๆ คนคิดมากทุกครั้งเวลาที่จะทานอาหารประเภทสัตว์ปีก เพราะว่าอาการของโรคเกาต์น่ากลัวตั้งแต่อาการเริ่มปวดตามข้อต่าง ๆ บนร่างกายของเราและอาจจะไปจนถึงความพิการ หรือว่าอาจจะทำให้เกิดเป็นโรคไตวายแทรกซ้อนได้ โดยที่เราไม่ทราบว่าสาเหตุหลักของการเกิดโรคนี้เกิดมาจาก “กรดยูริก” ที่มีสะสมในร่างกายที่มากเกินไปหรือไม่ การรับประทานสัตว์ปีกในปริมาณที่มากไม่ใช่สาเหตุหลักของการเกิดโรคเกาต์ แต่เพราะโรคนี้เกิดมาจากการสะสมของกรดยูริกในร่างกายที่มีในปริมาณมาก และแน่นอนว่ากรดยูริกชนิดนี้ไม่ใช่กรดที่จะสามารถพบได้มากเฉพาะแต่สัตว์ปีกเพียงเท่านั้น เนื่องจากว่าโรคเกาต์เป็นโรคที่เกิดมาจากการรับประทานอาหาร และการใช้ชีวิตประจำวันเป็นต้น ดังนั้นถ้าหากจะแก้ไขปัญหาก็จะต้องแก้ที่ต้นเหตุไม่ใช่ที่ปลายเหตุอย่างเดียว เช่น การหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีพวกสารพิวรีนสูง ได้แก่ เห็ด,ไข่ปลา,ปลาดุก, ปลาไส้ตัน, ปลาซาร์ดีน, กุ้ง, ผักชะอม, ผักกระถิน, ผักสะเดา, กะปิ, น้ำต้มกระดูก และซุปก้อน แต่เนื่องจากว่ากรดยูริกจะถูกผลิตมาจากร่างกายของเราเอง ประกอบกับการรับประทานอาหารที่เราทานด้วยในส่วนหนึ่ง แต่ไม่ได้มีผลมากมายเท่ากับกรดยูริกที่อยู่ในร่างกายแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าการที่เราทานสัตว์ปีกจะไม่ใช่สาเหตุหลักของการเกิดโรคเกาต์ แต่ถ้าสำหรับคนที่เป็นโรคเกาต์อยู่ก่อนแล้วการที่จะรับประทานสัตว์ หรือว่าอาหารจำพวกที่มีโปรตีน และกรดยูริกสูงก็อาจจะทำให้อาการกำเริบขึ้นมาได้ ทั้งนี้โรคเกาต์เป็นโรคที่เกิดมาจากพันธุกรรมที่มีความผิดปกติของสาร พิวรีน ในร่างกายทำให้เกิดการสะสมของกรดยูริกมากกว่าปกติ จนตกผลึกอยู่ในรูปของเกลือยูเรต หรือเรียกว่า Urate crystals ทำให้เกิดการสะสมตามบริเวณข้อต่าง ๆ แล้วเมื่อเกิดการแตกตัวออกก็จะเข้าไปแทงตามเนื้อเยื่อต่าง ๆ ทำให้เกิดการอักเสบ ปวดบวม และเป็นโรคเกาต์ได้ในที่สุด ซึ่งจะพบมากในผู้ชาย 80-90% และจะเริ่มเป็นตั้งแต่อายุระหว่าง […]
เอ็นกล้ามเนื้ออักเสบ สามารถเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ โดยที่เราไม่ทันได้ระวังตัว และเมื่อเกิดการบาดเจ็บเกิดขึ้น ก็จำเป็นจะต้องใช้เวลาในการรักษาที่ค่อนข้างจะนาน อาจจะทำให้พลาดโอกาสดี ๆหลาย ๆ อย่างในชีวิตไป โดยเฉพาะคนที่เป็นนักกีฬา ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือ การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดกล้ามเนื้อ บาดเจ็บจะส่งผลทำให้เอ็นอักเสบได้ เอ็นกล้ามเนื้ออักเสบ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุดังนี้ สาเหตุที่เอ็นกล้ามเนื้ออักเสบเพราะว่ากล้ามเนื้อการบาดเจ็บสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากการกระทบที่ภายนอกอย่างรุ่นแรง และทำให้ได้รับบาดเจ็บจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งการบาดเจ็บจากแรงที่กระทบจากภายนอก อย่างเช่น แรงปะทะกันขณะเล่นกีฬาประเภทนักฟุตบอลที่คู่ต่อสู้ยกเท้ามายันที่ต้นขาอย่างรุ่นแรง ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อต้นขาเกิดการฟกช้ำ เวลาที่ถูกกระแทกฟกช้ำจะส่งผลทำให้หลอดเลือดฝอยต่าง ๆ เกิดการฉีกขาด และมีเลือดออกมาที่บริเวณชั้นกล้ามเนื้อ หรือว่าเกิดการฉีกขาดของเส้นใยกล้ามเนื้อ จนทำให้มีเลือดออกมากขึ้น จึงทำให้เกิดการบวมขึ้นภายใน 48 – 72 ชั่วโมงแรก หรือในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บจากการหดตัวของกล้ามเนื้อเองนั้น เป็นเพราะว่าการหดตัวอย่างรุนแรงในทันที จนอาจจะทำให้เกิดหลอดเลือดฝอยที่บริเวณใยกล้ามเนื้อทำให้มีการฉีกขาด สาเหตุก็อาจจะมาจากการใช้งานมากเกินไปอย่างเช่น การเล่นเวทที่เรียกน้ำหนักมากจนเกินกำลังที่เราจะยกได้ หรือว่าอาจจะเล่นนานมากเกินไปจนทำให้กล้ามเนื้อและเอ็นเกิดการอักเสบได้ และสาเหตุส่วนใหญ่เกิดมาจาก 3 สาเหตุหลัก ๆ ดังนี้ ก่อนการออกกำลังกายทุกครั้งขาดการเตรียมร่างกายให้พร้อม การออกกำลังกายหนักเกินไป อย่างเช่น การออกกำลังกายด้วยการยกเวท โดยการเรียกน้ำหนักมากจนเกินไป การออกกำลังกาย […]