fbpx

Category Archives: บทความเกี่ยวกับกระดูกและข้อ

กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง ปล่อยไวอันตรายแค่ไหน

            กล้ามเนื้ออักเสบ (Myositis) คือภาวะอักเสบที่มีผลต่อกล้ามเนื้อ ซึ่งจะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง และล้ามากหลังจากเดินหรือว่ายืนเป็นเวลานาน ๆ อาการเจ็บและบวมที่บริเวณกล้ามเนื้อ โดยอาจจะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ หรือกลายเป็นอาการเรื้อรัง แต่ทั้งนี้สาเหตุอาจจะเกิดมาจากการติดเชื้อ, เกิดจากการบาดเจ็บ, โรคภูมิคุ้มกันตัวเองบกพร่อง หรืออาจจะเป็นผลข้างเคียงจากการที่ใช้ยาก็ได้ และในปัจจุบันนี้ก็มีหลายคนที่มีปัญหาในเรื่องของอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ทำงานในออฟฟิศ สาเหตุก็มาจากท่านั่งทำงาน ที่ส่งผลทำให้เกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อเป็นก้อนเล็ก ๆ เรียกว่า Trigger Point หรือจุดกดเจ็บที่ซ่อนอยู่บริเวณของกล้ามเนื้อหรือเยื่อพังผืด     อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง อาการแรกเริ่มของโรคกล้ามเนื้ออักเสบจะเหมือนกับอาการของไข้หวัดใหญ่ คือจะมีไข้, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ, ท้องเสีย, อาเจียน, อ่อนเพลีย, เจ็บหน้าอก, หัวใจจะเต้นช้า  และผู้ป่วยบางคนถึงกับหายใจลำบากจนหมดสติเลยก็ได้ หรือคนที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อแบบเรื้อรัง ก็จะสามารถสังเกตอาการตัวเองได้ว่า ถ้ามีอาการปวดที่บริเวณกล้ามเนื้อ, ปวดร้าวลึก ๆ ที่บริเวณกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย, อาจจะปวดอยู่ตลอดเวลา หรือว่าปวดเฉพาะเวลาที่เอามือกดแล้วรู้สึกเจ็บ ความรุนแรงของอาการปวด จะเริ่มตั้งแต่ทำให้เรารำคาญไปจนถึงทำให้ทรมานจนเราไม่สามารถที่จะขยับบริเวณนั้นได้เลย ในบางรายอาจจะมีอาการมือชา, เท้าชา, ขาชาร่วมด้วย และในบางรายก็อาจจะมีอาการจนทำให้นอนหลับได้ยาก หรืออาจจะถึงขั้นนอนไม่หลับ  และขั้นที่เลวร้ายที่สุดอาจจะลามไปถึงโรคที่เกี่ยวกับกระดูกได้เลยทีเดียว  ซึ่งผู้ป่วยที่มีอาการหนักอาจจะทำให้เสียชีวิตในฉับพลันได้   โรคแทรกซ้อนของโรคกล้ามเนื้ออักเสบ ผู้ป่วยที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออักเสบในบางรายก็อาจจะมีการตอบสนองต่อการรักษาได้ไม่ดีเท่าไหร่ และมีผลกระทบในการดำเนินชีวิตประจำวันจากกล้ามเนื้ออักเสบที่เป็น รวมไปถึงภาวะไตวาย ที่อาจจะเกิดขึ้นได้หากผู้ป่วยได้รับน้ำไม่เพียงพอ ทั้งนี้โรคกล้ามเนื้ออักเสบที่เกิดขึ้นหลายแห่งและชนิดของโรคกล้ามเนื้ออักเสบร่วมกับผิวหนังอักเสบที่อาการรุนแรงอาจจะส่งผลต่อการหายใจและการกลืนอาหาร จนอาจจะต้องใช้การบำบัดในด้านการพูดและการใช้ภาษาหากอาการดังกล่าวจะทำให้มีผลต่อการสื่อสาร […]

รู้จักโรค หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน

กระดูกสันหลังของเราทุกคนจะมีเนื้อเยื่อที่อยู่ระหว่างของกระดูกสันหลังทุกข้อตั้งแต่คอไปจนถึงเอว  กระดูกสันหลังจะทำหน้าที่คอยรองรับแรงกระแทก และยืดหยุ่นเวลาเราเคลื่อนไหวในทิศทางต่าง ๆ ถ้าหากไม่มีหมอนรองกระดูกสันหลัง การที่จะก้ม, เงย หรือการเคลื่อนไหวหลังก็จะไม่สะดวก โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน (Lumbar Disc Herniation) คือโรคที่พบได้บ่อยกับคนที่หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม เพราะว่าเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้นหมอนรองกระดูกที่เป็นหนึ่งของข้อต่อของกระดูกสันหลังก็จะเริ่มเสื่อมไปตามอายุ โดยส่วนใหญ่จะเริ่มเสื่อมที่อายุประมาณ 25-30 ปี ซึ่งในบางคนเมื่อหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม ก็จะมีเนื้อเยื่อหุ้มหมอนรองกระดูกเกิดการฉีกแยกจนทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อนออกมาและอาจจะไปกดทับเส้นประสาทส่วนมากแล้วจะเริ่มมีอาการปวดหลังนำมาก่อนแล้วถึงจะตามมาด้วยอาการปวดหลังร้าวลงไปที่ขา และอาจจะมีอาการชา, อ่อนแรง หรือการขับถ่ายผิดปกติร่วมด้วย โดยอาการส่วนมากมักจะสัมพันธ์กันกับการทำกิจกรรมและการใช้งานของหลังเป็นส่วนใหญ่ สาเหตุโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน เกิดจากการใช้งานและการทำกิจกรรมที่ทำเป็นประจำ อย่างเช่น การยกของหนักผิดท่าบ่อย ๆ, การนั่งทำงานด้วยท่าที่ไม่ถูกต้องเป็นระยะเวลานาน คนที่มีน้ำหนักตัวมากจนเกินไป เกิดจากการประสบอุบัติเหตุจนทำให้กระดูกสันหลังเกิดการบาดเจ็บ แนวทางในการรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน กรณีที่คนป่วยที่เป็นคนอายุน้อย ซึ่งมีการปลิ้นของหมอนรองกระดูกที่ไม่มาก ในทางการรักษาของแพทย์จะใช้วิธีการรักษาด้วยการให้ยาลดอาการปวด ซึ่งจะช่วยลดอาการอักเสบของเส้นประสาท และให้ทำกายภาพเพื่อที่จะให้หมอนรองกระดูกหดกลับเข้าไปได้ แต่ในกรณีที่หมอนรองกระดูกเคลื่อนไปทับเส้นเกิดกับคนที่อายุมาก ๆ ก็จะมีความเสื่อมเกิดขึ้นค่อนข้างมาก การให้ทำกายภาพเพื่อที่จะดึงหมอนรองกระดูกให้หดกลับเข้าไป หรือให้ยาเพื่อลดอาการปวดอาจจะส่งผลในทางรักษาให้ดีขึ้นได้ค่อนข้างน้อย เมื่อคนป่วยมีอาการตามที่ได้กล่าวมาแพทย์จะซักประวัติ  ถึงระดับความอาการปวด เมื่อทานยาแล้วอาการดีขึ้น หรือไม่ ถ้าอาการดีขึ้นแพทย์ก็ไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัด แต่ถ้าทานยาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น จนทำให้รู้สึกรำคาญกับอาการปวด หรืออาจจะปวดมากก็จำเป็นจะต้องทำการผ่าตัด เพื่อนำหมอนรองกระดูกออก การผ่าตัดมี 2 วิธี คือ วิธีที่ 1 คือ การผ่าตัดแบบแผลเปิด […]

ไหล่ติด ปวดไหล่ ทำให้เป็นอัมพาตได้หรือไม่

ข้อไหล่ เป็นข้อที่สำคัญของร่างกายไม่ต่างกับข้อเข่าเลย  เพราะว่าเป็นข้อที่สามารถทำให้การเคลื่อนไหวได้ทุกทิศทาง และคล่องตัวอย่างมาก มีการทำงานร่วมกันกับส่วนประกอบต่าง ๆ ของร่างกายทำให้เราสามารถเคลื่อนไหว หรือใช้งานแขนของเราในการทำงาน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ หากข้อไหล่ได้รับบาดเจ็บหรือไม่สามารถที่จะใช้งานได้ อาจจะทำให้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน อาการปวดไหล่เป็นปัญหาที่พบได้มากที่สุดและบ่อยมากขึ้น โดยอาการอาจจะเกิดเป็นครั้งคราวหรือเรื้อรัง ถ้าหากมีอาการปวดไหล่ในระหว่างกำลังเอื้อมมือไปหยิบของจากที่สูง, เอื้อมมือไปรูดซิบด้านหลังเสื้อก็ไม่ได้, เอื้อมมือไปล้วงกระเป๋ากางเกงที่ด้านหลังได้ลำบาก, ยกแขนเพื่อสวมเสื้อไม่ได้ หรือแม้แต่ยกแขนขึ้นเพื่อสระผมตัวเองก็ทำลำบาก  นั่นเป็นสัญญาณอันตรายเสี่ยงภาวะไหล่ติด   ปวดไหล่ เกิดจากสาเหตุใดบ้าง   การได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ จะทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาด, เส้นเอ็นฉีกขาด, กระดูกหัก หรือทำให้ข้อเคลื่อน การใช้ข้อไหล่ที่ไม่เหมาะสม จึงทำให้เกิดการอักเสบของเส้นเอ็นและบริเวณกล้ามเนื้อ หรือกล้ามเนื้อข้อไหล่เกิดการฉีกขาด การเสื่อมสภาพไปตามธรรมชาติของกระดูก, กล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ซึ่งจะพบกับผู้สูงอายุมากที่สุดทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ง่าย การติดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อวัณโรค โรคข้ออักเสบที่มีข้อไหล่อักเสบร่วมด้วยได้ อย่างเช่น โรครูมาตอยด์ และโรคเกาต์ เป็นต้น เส้นเอ็นอักเสบ และมีแคลเซียมมาเกาะ เมื่อทำการเอ็กซเรย์จะเห็นว่ามีหินปูนสีขาวเกาะอยู่บริเวณรอบ ๆ ข้อไหล่ ถุงน้ำที่ข้อไหล่เกิดการอักเสบ อาการปวดไหล่เป็นผลมาจากอาการปวดร้าวจากบริเวณอื่น หรือเกิดการอักเสบที่บริเวณใกล้เคียง อย่างเช่น กระดูกคอเสื่อม, กล้ามเนื้อหลังอักเสบ, เส้นประสารทเบรเคียลเกิดการอักเสบ, ถุงน้ำดีอักเสบ, […]

นั่งผิดท่าชีวิตเปลี่ยน สัญญาณอันตราย!จากอาการปวดหลังและไหล่

นั่งผิดท่านตราย

อาการปวดหลังโดยปกติแล้ว ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อ เช่น การยกของที่มีน้ำหนักมากเกินไป, นั่งทำงานนาน ๆ, ใส่รองเท้าส้นสูงเกินไป, เอื้อมมือหรือว่าเอี้ยวตัวไปหยิบของผิดท่า, การออกกำลังกายอย่างหนัก และการนั่งทำงานในท่าที่ไม่เหมาะสม อาจจะส่งผลทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย และทำให้กล้ามเนื้อผิดรูปได้ ท่านั่งแบบนี้อาจจะทำให้คุณปวดหลังแบบเรื้อรังได้   การนั่งเบาะไม่เต็มก้น คือ การนั่งแค่ครึ่งเบาะหลังไม่พิงพนักเก้าอี้ ทำให้หลังค่อม รวมไปถึงกล้ามเนื้อหลังทำงานหนักมากขึ้น นั่นก็เพราะก้นของเรารับรองน้ำหนักได้ไม่เต็มที่ การนั่งหลังค่อม คือ การนั่งหลังค่อมจะทำให้กระดูกสันหลังงอ ยิ่งถ้าเรายังนั่งอยู่ในท่าเดิมไปนาน ๆ โดนที่ไม่ขยับเลย ก็จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหลังเกร็งค้าง ทำให้เกิดอาการคั่งของกรดแลคติก จนเกิดอาการเมื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา และทำให้กระดูกคดงอผิดรูปถาวรได้ การนั่งไขว่ห้าง คือการที่เราลงน้ำหนักไปที่ขาและเท้าข้างใดข้างหนึ่ง เลือดตรงบริเวณขาจะไหลเวียนได้ไม่ดี จึงทำให้เมื่อย และก่อเป็นกล้ามเนื้อผิดรูป อาจจะทำให้กระดูกสันหลังคดงอ และทำให้เส้นประสาททำงานผิดปกติ รวมไปถึงหมอนรองกระดูกอาจจะเคลื่อนทับเส้นประสาทได้ การนั่งขัดสมาธิ จะทำให้เราเป็นเหน็บชา ยิ่งคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ หรือว่ามีปัญหาเรื่องกระดูกอยู่แล้ว ก็จะยิ่งทำให้เกิดข้อเข่าเสื่อมได้ การนั่งทับขาข้างใดข้างหนึ่ง ทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก เสี่ยงต่อกระดูกสะโพก  รวมถึงกระดูกสันหลังคดงอได้เพราะข้อขาทั้งสองข้างไม่สมดุลกันนั่นเอง การนั่งพิมพ์โน๊ตบุ๊คที่วางบนตัก คือแป้นพิมพ์ และหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ต่ำจนเกินไป จะทำให้เราก้มมองจอ จึงมีอาการปวดคอ และปวดหลังโดยที่เราไม่รู้ตัว   การนั่งผิดท่ามีผลเสียดังนี้ การนั่งผิดท่า คือ การที่เรานั่งนาน ๆ จะทำให้เสี่ยงที่จะมีโรคตามมาหลายโรค เช่น โรคอ้วน, โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด หรือแม้แต่โรคมะเร็งด้วย จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย  สำรวจพฤติกรรมของคนจำนวน 8,000 คน ชี้ให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ที่ใช้เวลากับการนั่ง เฉลี่ยอยู่ที่ 12.3 ชั่วโมงต่อวันนั้น ในช่วงระยะเวลา 4 ปีต่อมา จะมีคน 340 คนที่ต้องเสียชีวิตจากปัญหาของสุขภาพต่าง ๆ ดังนั้น จึงสามารถสรุปได้ว่า การที่เรานั่งนาน ๆ […]

ปวดไหล่เรื้อรังอันตรายหรือไม่

ปวดไหล่เรื้อรัง

            บริเวณหัวไหล่ คือส่วนของข้อที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย และใช้เพื่อการทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมายในการดำเนินชีวิตประจำวัน อาทิเช่น การแต่งกาย, การทำความสะอาดร่างกาย, การทำงาน หรือการเล่นกีฬา ดังนั้นหากเกิดความผิดปกติขึ้นที่บริเวณหัวไหล่  จึงทำให้ส่งผลกับการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างยากลำบากมากขึ้น อาการปวดไหล่  จึงเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมากที่สุด โดยคนที่มีอาการปวดไหล่อาจจะปวดเป็นเวลาครั้งคราว หรืออาจจะปวดชนิดเรื้อรังคือจะปวดตลอดเวลาก็เป็นได้ โดยสาเหตุหลัก ๆ เกิดมาจากความผิดปกติของบริเวณข้อหัวไหล่เอง หรือความผิดปกติเกิดจากอวัยวะข้างเคียงก็ได้ จึงทำให้เกิดอาการปวดร้าวมาที่บริเวณหัวไหล่ อย่างเช่น  ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด, วัณโรคปอด, หรือว่ากระดูกที่บริเวณต้นคอเสื่อม เป็นต้น ภาวะข้อไหล่ติดแข็ง (Frozen shoulder)             ภาวะชนิดนี้สามารถพบได้บ่อยที่สุดในคนที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ส่วนมากผู้หญิงจะมีโอกาสเป็นมากกว่าผู้ชาย คนที่ใช้งานที่บริเวณหัวไหล่อย่างหนัก, คนที่เคยผ่าตัดหรือว่าได้รับอุบัติเหตุที่บริเวณหัวไหล่เป็นต้น อาการก็จะเริ่มจากเจ็บที่บริเวณข้อไหล่เป็นระยะเวลานานหลายสัปดาห์ หรืออาจจะนานเป็นเดือน และจะมีอาการปวดเพิ่มมากขึ้นเมื่อเคลื่อนไหวแขนและหัวไหล่ หลังจากนั้นอาการปวดก็จะเริ่มลดลง และสามารถเคลื่อนไหวหรือว่าขยับ ข้อไหล่ได้ดีขึ้น จนทำให้เราเข้าใจว่าอาการปวดหัวไหล่ดีขึ้นแล้ว แต่ถ้าหากว่าเราสังเกตให้ดีก็จะพบว่าหลังจากอาการปวดดีขึ้นแล้ว การเคลื่อนไหวของแขนและหัวไหล่อาจจะทำได้ไม่เต็มที่เหมือนเดิม ฉะนั้นภาวะข้อไหล่ติดแข็ง จะพบอาการปวดที่บริเวณไหล่สัมพันธ์กันกับการมีผลึกหินปูนหรือว่าแคลเซียมสะสมอยู่ภายในบริเวณเอ็นต่าง ๆ ซึ่งอาการปวดก็อาจจะเป็นแบบฉับพลันและมีความรุนแรงมาก จนทำให้เราไม่สามรถยกไหล่ขึ้นได้ หรือในบางรายอาจจะปวดแบบเรื้อรัง ซึ่งเกิดมาจากการสะสมของผลึกหินปูนอยู่ภายในเส้นเอ็นด้วย โดยเฉพาะในเส้นเอ็นที่บริเวณหัวไหล่ที่เรียกว่า Supraspinatus […]

อาการปวดหลังแบบไหนอันตราย

ปวดหลัง

อาการปวดหลังจะพบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย และทุกกลุ่มผู้ป่วยบางรายอาจจะมีอาการที่รุนแรงจนมีผลกระทบกับการทำงาน รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันด้วย อาการปวดหลังเกิดมาจากการอักเสบของบริเวณกล้ามเนื้อ อาจจะเกิดมาจากการใช้กล้ามเนื้อตรงบริเวณนั้นมากจนเกินไป หรือว่าได้รับอุบติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็อาจจะหายเองได้หากงดเว้นการใช้กล้ามเนื้อตรงบริเวณที่เกิดการอักเสบสักพัก หรือว่าใช้ยาทาภายนอกที่สามารถช่วยลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ แต่หากมีอาการปวดหลังที่พ่วงมาด้วยอาการอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ให้คุณรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียด มีอาการปวดที่บริเวณเดิม ๆ เป็นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 1 เดือน มีอาการปวดมากจนทำให้รู้สึกถึงความผิดปกติ อาการไม่ดีขึ้นเลย มีอาการปวดแบบเจ็บแปลบ ๆ เหมือนมีเข็มมาจิ้มตรงบริเวณที่มีอาการ อาการปวดร้าวยาวลงไปถึงต้นขา หรืออาจจะมีอาการขาอ่อนแรง, ปวดที่บริเวณปลีน่อง จนทำให้ไม่สามารถที่จะเดินได้ตามปกติ หรืออาจจะเดินได้นิดหน่อยก็เกิดอาการปวด ปวดตรงบริเวณก้นกบ โดยที่ไม่มีสาเหตุหรือว่ามาจากอุบัติเหตุใด ๆ อาการปวดหลังที่เกิดมาจากอุบัติเหตุที่รุนแรง อย่างเช่น อุบัติเหตุจราจร หรือตกจากที่สูงลงมา เกิดอาการปวดปัสสาวะแสบขัด, ปัสสาวะมีสีขุ่น หรืออาจจะมีไข้ร่วมกับอาการปวดที่หลังตรงบริเวณเอว (อาการแบบนี้อาจจะเป็นอาการเริ่มต้นของนิ่วในไต หรือว่าไตอักเสบ) มีอาการปวดต้นขา หรือบริเวณเท้ามีอาการชาทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้ตามปกติ อย่างเช่น ก้มตัว, ยืดตัวตรง, กลั้นปัสสาวะ หรืออุจจาระเริ่มไม่ค่อยอยู่ ดังนั้นท่านใดที่มีอาการตามที่กล่าวมา หรือมีคนที่ใกล้ชิด หรือเวลาหยุดทานยาอาการปวดก็จะกลับมาปวดใหม่อีกไม่หายสักที คุณต้องรีบไปปรึกษาแพทย์และให้แพทย์ทำการตรวจโดยละเอียด เพื่อที่จะหาสาเหตุของอาการที่แท้จริง และจะได้แก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุจะเป็นการดีที่สุด เพราะว่าถึงคุณจะทานยาคลายกล้ามเนื้อ […]

โรคกระดูกพรุนเกิดจากอะไร

โรคกระดูกพรุน

          โรคกระดูกพรุน เป็นโรคกระดูกชนิดหนึ่งที่กระดูกเริ่มเสื่อมสภาพลง เนื่องจากการขาดแคลเซียมที่สะสมอยู่ในกระดูก โดยโรคนี้จะไม่ทำให้เจ็บปวดนอกจากกระดูกแตกหรือหักเท่านั้น จะพบได้บ่อยที่บริเวณกระดูกสันหลัง, สะโพก หรือที่บริเวณข้อมือ รวมทั้งยังสามารถเกิดขึ้นได้กับกระดูกบริเวณส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) คือ โรคที่มีความหนาแน่นและมวลของกระดูกลดน้อยลงจนทำให้กระดูกเสื่อม, เปราะบาง, ผิดรูป และมีโอกาสที่จะแตกหักได้ง่าย ผู้ป่วยบางท่านกระดูกพรุนมีผลทำให้ส่วนสูงลดลง เนื่องจากว่ามวลกระดูกผุกร่อน ผลจากโรคกระดูกพรุน คือจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหัก เนื่องจากกระดูของเราสามารถรับน้ำหนัก, แรงกระแทก หรือแรงกดได้ลดลง สาเหตุกระดูกพรุนเกิดจากอะไร           โรคกระดูกพรุนเกิดมาจากการทำงานที่ไม่สมดุลของเซลล์กระดูกทั้ง 2 ชนิด จึงทำให้กระดูกมีการสลายมากกว่าที่จะสร้างกระดูกเกิดขึ้น โดยมีสาเหตุมาจากปริมาณแคลเซียมในร่างกายมีไม่เพียงพอต่อกระบวนการสร้างกระดูก หรืออาจจะมีความผิดปกติของเซลล์กระดูก และโรคกระดูกพรุนส่วนมากที่พบบ่อยที่สุดเกิดมาจากการสูญเสียฮอร์โมนของเพศหญิง  เนื่องจากหมดประจำเดือน โดยจะพบว่า 25% ของผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 60 ปีจะเป็นโรคกระดูกพรุน รวมไปถึงผู้หญิงที่หมดประจำเดือนเร็ว หรือได้ผ่านการผ่าตัดรังไข่ทิ้งก่อนอายุ 45 ปี ก็จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดเป็นโรคกระดูกพรุนได้มากที่สุด นอกจากนี้ก็พบว่าอายุก็มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนได้เช่นกัน โดยประมาณหลังอายุ 50 ปีไปแล้ว กระดูกของเราก็จะบางลงทุกปี  นอกจากนี้แล้วก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจจะทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนได้ อย่างเช่น คนที่มีประวัติของครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน ร่างกายขาดวิตามินดีหรือว่าขาดแคลเซียม, การดื่มสุรา, […]

อาการเข่าบวมน้ำคืออะไร รักษาอย่างไร

เข่าบวมน้ำ

            ในยุคสมัยปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงในการใช้ชีวิตของผู้คนไปแตกต่างจากสมัยก่อน มีความเร่งรีบมากขึ้น จึงทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยความไม่ระมัดระวังอยู่เสมอ การเดินก็มีโอกาสทำให้หกล้มได้ง่าย การขับขี่ยานพาหนะก็เสี่ยงต่อการบาดเจ็บมากยิ่งขึ้น เพราะด้วยความที่ต้องใช้ชีวิตเร่งรีบคนเรามักจะขับขี่ยานพาหนะด้วยความเร็ว อีกทั้งกระแสของสังคมก็เริ่มให้ความสนใจในการออกกำลังกายใหม่ ๆ โอกาสที่จะทำให้ร่างกายเกิดการบาดเจ็บจึงมีมากขึ้น หมอจึงไม่แปลกใจว่าในวันหนึ่ง ๆ ทำไมจึงมีคนไข้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของกระดูกและข้อ อย่างเช่น ข้อไหล่, ข้อสะโพกและข้อเข่า ไปพบหมออย่างน้อย ๆ 5 – 6 คนต่อวัน และยิ่งโดยเฉพาะบริเวณข้อเข่า เพราะเป็นข้อที่เกิดการบาดเจ็บได้บ่อยมากที่สุดของร่างกาย อีกทั้งปัญหาข้อเข่าที่พบได้บ่อยมาก ๆ ก็คืออาการ เข่าบวมน้ำ เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านอาจจะยังไม่รู้จัก เราจึงนำบทความเรื่องอาการเข่าบวมน้ำมาฝากเพื่อให้ทุกท่านได้ทราบถึงอาการเข่าบวมน้ำว่ามีอาการอย่างไร   เข่าบวมน้ำคืออะไร             เข่าบวมน้ำเป็นความผิดปกติอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นกับโครงสร้างของภายในข้อเข่า ซึ่งจะสามารถสังเกตได้ค่อนข้างที่ชัดเจนว่า ข้อเข่าด้านในตรงบริเวณลักยิ้มใกล้ ๆ กับลูกสะบ้าจะไม่มีรอยบุ๋ม ก็คือจะมีลักษณะน้ำดันออกมาจนดูบวมขึ้นใหญ่ขึ้น ลักษณะอาการนี้เรียกว่าเข่าบวมน้ำนั่นเอง แต่ส่วนใหญ่แล้วคนป่วยที่มาพบแพทย์ด้วยอาการเข่าบวมน้ำนั้น คนไข้จะมีอาการเข่าบวมใหญ่ขึ้นมาแล้ว ซึ่งจะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน  แต่ในบางคนเข่าก็อาจจะบวมไม่มาก แต่ก็มีอาการปวดในขณะที่งอเข่า หรือว่ายืดเหยียดเข่า และในบางคนก็จะมีอาการบวมแดงบริเวณรอบ ๆ ข้อเข่า ซึ่งส่วนมากแล้วก็มักจะมีอาการบวมแดงบริเวณด้านหน้า เพราะว่าผิวหนังบริเวณด้านหน้าข้อเข่าจะบาง […]

น้ำไขข้อคืออะไร สำคัญอย่างไร

น้ำไขข้อ

                น้ำไขข้อ (Synovial fluid) เป็นของเหลวข้นใสเเละลื่นอยู่ในช่องของกระดูกไขทำหน้าที่หล่อเลี้ยงเยื่อบุข้อต่อ ป้องกันการเสียดสีและกันกระเเทกต่อกระดูกอ่อนผิวข้อ รวมไปถึงทำหน้าที่หล่อลื่นข้อต่อเพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก, ไม่เกิดการเจ็บปวด และไม่ฝืดขัด ซึ่งจะประกอบไปด้วยสารที่สำคัญ ก็คือ สารไฮยาลูโรเนท “Hyaluronate หรือ Hyaluronic Acid:HA” ซึ่งจะมีความเกี่ยวข้องกับโรคข้อเข่าเสื่อม ที่เกิดมาจากกระดูกอ่อนผิวข้อเสื่อมสภาพไป มีการแตกร้าว และหลุดลอกออก ส่งผลทำให้น้ำไขข้อ มีปริมาณและคุณภาพที่ลดลง น้ำไขข้อแห้งจะส่งผลอย่างไร           น้ำไขข้อ หรือว่าน้ำมันไขข้อ เป็นน้ำหล่อลื่นที่อยู่ในข้อเข่า มีความเหนียว และลื่น มีลักษณะเหมือนไข่ขาว จะคอยทำหน้าที่ช่วยในการลดการเสียดสี และลดแรงกระแทกของส่วนต่าง ๆ ภายในหัวเข่า ทำให้การเคลื่อนไหวร่างกาย ได้สะดวก ซึ่งร่างกายของมนุษย์เราจะทำการผลิตน้ำไขข้อได้โดยอัตโนมัติ  แต่สิ่งที่เราจะต้องระมัดระวัง นั่นก็คือ ไม่ควรให้หัวเข่า ได้รับแรงกระแทก หรือว่าอุบัติเหตุใด ๆ ก็ตาม เพราะจะทำให้น้ำไขข้อแห้งได้ ซึ่งจะทำให้เป็นอันตรายต่อหัวเข่าของเรามากที่สุด  ดังนั้นจึงไม่ควรจะปล่อยให้น้ำไขข้อแห้งเด็ดขาด เพราะบริเวณข้อต่าง ๆ ที่อยู่ภายในหัวเข่า จะเกิดการเสียดสีกันจนทำให้เกิดการอักเสบได้ เมื่อเราปล่อยให้เกิดอักเสบนาน ๆ ก็จะทำให้เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมตามมานั่นเอง โดยที่เราสามารถสังเกตอาการน้ำไขข้อแห้งได้ดังนี้ เมื่อมีอาการปวดหัวเข่า เช่น เมื่อเรางอเข่าแล้วเจ็บ, เวลาเดินแล้วเจ็บเข่า […]

อาการเส้นเอ็นอักเสบ เกิดจากอะไรได้บ้าง

อาการเส้นเอ็นอักเสบ

  เส้นเอ็นในร่างกายในส่วนที่ช่วยยึดระหว่างข้อต่อต่างๆ กับกล้ามเนื้อ จึงมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้การเคลื่อนไหวทุกอิริยาบถของมนุษย์มีความยืดหยุ่น แต่ถ้ามีอาการเส้นเอ็นอักเสบเกิดขึ้น ย่อมกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหากเกิดกับเส้นเอ็นข้อต่อสำคัญเช่น ข้อเท้า ข้อเข่า อาการเส้นเอ็นอักเสบเกิดจากอะไรได้บ้าง เรามาดูกัน อาการเส้นเอ็นอักเสบเป็นอย่างไร อาการของเอ็นอักเสบนั้น จะแสดงออกจากอาการปวดหรือเจ็บในบริเวณอวัยวะที่มีข้อต่อต่างๆ เมื่อเราเคลื่อนไหว ยิ่งเมื่อใช้งานซ้ำทั้งที่เจ็บ จะเกิดอาการบวมนูน มีสีแดงในบริเวณที่เอ็นอักเสบ เนื่องจากเส้นเอ็นอยู่ในตำแหน่งที่เชื่อมกระดูกข้อต่อกับกล้ามเนื้อ ยืดหยุ่นไปตามจังหวะการเคลื่อนไหว อาการเส้นเอ็นอักเสบ จึงมักเกิดที่ หัวไหล่ ข้อศอก ข้อมือ สะโพก หัวเข่า และข้อเท้า ถ้าไม่ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นฉับพลันอย่างเช่น นักกีฬา ก็จะมีลำดับอาการดังนี้ รู้สึกขัดๆ เคลื่อนไหวไม่คล่องตัวเหมือนที่เคยเป็นมาตลอด อาจเริ่มมีอาการปวดนิดๆ เวลาเคลื่อนไหวก็ได้ มีอาการบวมแดง เหมือนฟกช้ำ อาการอักเสบจนรู้สึกอุ่น ๆ บริเวณนั้นๆ มีอาการบวมมากขึ้นจนเหมือนเป็นก้อนบวมตามเอ็นกล้ามเนื้อ    อาการเส้นเอ็นอักเสบเกิดจากอะไรได้บ้าง เกิดจากการใช้งานร่างกายที่มากเกินไป ระดับของความมากเกินไปนั้น ตั้งแต่การสะสมการใช้งานนานๆ แบบผิดท่า เช่น ยกของหนัก การเอื้อมยกของ การออกแรงเหวี่ยงผิดท่า บางทีเกิดจากการใช้งานแบบหักโหม โดยเฉพาะการเล่นกีฬาโดยวอร์มร่างกายไม่พอ หรือเล่นหนักเกินไป หรืออุบัติเหตุระหว่างการเล่นกีฬา เกิดจากความเสื่อมของเส้นเอ็นจากการใช้งานมานาน […]