fbpx

โรคเก๊าท์ไม่ควบคุมอันตรายแค่ไหน

​เป็นเก๊าท์แล้วไม่ควบคุมจะอันตรายแค่ไหน

          ผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์ คือผู้ที่มีระดับกรดยูริคในเลือดสูงมากเกินไป โดยกรดยูริคนี้ร่างกายของเราได้สร้างขึ้นมาเพื่อที่จะทำให้อาหารแตกตัว แต่ถ้าหากร่างกายของเราผลิตกรดดังกล่าวนี้มากจนเกินไป ต่อเนื่องเป็นเวลานาน กรดยูริคก็จะจับตัวกันเป็นก่อนผลึก แล้วไปจับตัวรวมกันที่รอบ ๆ ข้อต่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ในระยะแรก ผู้ป่วยจะไม่รู้ตัว เพราะไม่มีอาการปรากฏให้เห็น แต่เมื่อบริเวณข้อต่อที่กรดยูริคไปจับตัวเป็นก่อนผลึกนั้นเกิดการอักเสบขึ้นมา ผู้ป่วยจะมีความเจ็บปวดในบริเวณข้อต่อนั้นมาก นอกจากจะปวดตึงมากแล้ว จะสังเกตเห็นได้ว่าบริเวณนั้น ทั้งบวม และแดง อาการที่ปรากฏขึ้นมานี้ เรียกว่า โรคเก๊าท์กำเริบ

 

          โรคเก๊าท์นี้ หากไม่ได้รับการรักษา และควบคุมโรค ก็จะกลายเป็นปัญหาระยะยาวได้ เพราะหากปล่อยให้ดับกรดยูริคในเลือดสูงไปเรื่อย ๆ ก้อนผลึกก็จะจับตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นปัญหาระยะยางของผู้ป่วย นำไปสู่อาการเจ็บปวด ทุกข์ทรมาณ และถึงขั้นทำให้ข้อต่อผิดรูปผิดร่าง กลายเป็นความเสียหาย หรือพิการในระยะยาวได้
โรคเก๊าท์ จะกำเริบและอาจจะแสดงอาการที่แตกต่างกันไปสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย อาการปวด บวม อาจจะเกิดในจุดที่ต่างกัน บางคนก็เกิดอาการหลายจุด ความรุนแรงของอาการก็อาจจะแตกต่างกัน ระยะเวลาในการกำเริบ ก็แตกต่างกัน แต่หากผู้ป่วยสังเกตเห็นว่าตนเองมีอาการต่อไปนี้ หมายความว่า อาการเริ่มที่จะรุนแรงแล้ว และหากไม่ควบคุมจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้

  • อาการกำเริบเกิดขึ้นบ่อย และเกิดขึ้นเป็นเวลานาน ยิ่งอาการกำเริบบ่อย ก็ยิ่งเป็นสาเหตุของอาการอักเสบ ซึ่งจะทำให้กระดูก และกระดูกอ่อนเสียหาย

  • อาการกำเริบเกิดขึ้นหลายจุด โดยมากแล้วเมื่ออาการของโรคเก๊าท์กำเริบขึ้น อาการจะเกิดขึ้นในบริเวณข้อต่อเล็ก โดยเฉพาะนิ้วหัวแม่เท้า แต่เมื่อโรคมีความรุนแรง อาการจะปรากฏที่ข้อต่อส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย อย่างเช่น ข้อเท้า และเข่า

  • มีตุ่ม มีก้อนเกิดขึ้นใต้ผิวหนัง เนื่องจากกรดยูริคเริ่มที่จะไปจับตัวกันที่เนื้อเยื่ออ่อน ทำให้เกิดเป็นตุ่ม เป็นก้อน เรียกว่า tophi ขึ้น ตุ่มนี้มักจะปรากฏให้เห็นที่บริเวณมือ นิ้ว ศอก ใบหู แต่ก็เป็นไปได้ที่จะปรากฏขึ้นที่บริเวณอื่่น ๆ ในร่างกาย

  • ไตมีปัญหา โดยปกติแล้ว ไตของเรามีหน้าที่กำจัดยูริคในร่างกาย แต่ถ้าในร่างกายมียูริคมากจนเกินไป ไตก็ต้องทำงานหนัก และอาจจะเกิดความเสียหายได้ ปัญหาโรคไต มีความเกี่ยวข้องกับโรคเก๊าท์ เมื่อไตมีปัญหาก็สัญญาณที่บ่งบอกว่าอาการของโรคเก๊าท์หนักแล้ว หากปล่อยไว่ อาจจะทำให้ไตล้มเหลวได้

 

จะทำอย่างไรเมื่ออาการของโรคจัดอยู่ในขั้นหนักแล้ว


          หากผู้ป่วย มีอาการดังกล่าวข้างต้น หรือรู้สึกว่า อาการโรคเก๊าท์ของตนเองนั้นเข้าขั้นน่าเป็นห่วงแล้ว ควรจะรีบปรึกษาแพทย์ และเข้ารับการรักษา ในการรักษานั้นแพทย์จะให้ยาเพื่อลดระดับกรดยูริคในร่างกายให้ต่ำลง และหาทางป้องกันไม่ให้โรคกำเริบ รวมทั้งป้องกันไม่ให้โรคลุกลามไปมากกว่าที่เป็นอยู่ จนเกิดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ขึ้นมา
สิ่งสำคัญในการดูแลผู้ป่วยโรคเก๊าท์ก็คือ การทำให้ร่างกายผลิตกรดยูริคให้น้อยลง ซึ่งนอกจากการให้ยาแล้ว แพทย์จะแนะนำแนวทางในการปฏิบัติตัวเพื่อควบคุมโรคให้กับคนไข้ แนวทางในการปฏิบัติตัวนั้น จะมีทั้งการเลือกรับประทานอาหาร จำกัดการรับประทานอาหารที่ทำให้ร่างกายสร้างกรดยูริค อย่างเช่น สัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น การควบคุมน้ำหนัก ไม่ให้มีน้ำหนักมากเกินไป การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และสม่ำเสมอ การพักผ่อนอย่างเพียงพอ การลดความเครียด เป็นต้น