อาการปวดหลังจะพบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย และทุกกลุ่มผู้ป่วยบางรายอาจจะมีอาการที่รุนแรงจนมีผลกระทบกับการทำงาน รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันด้วย อาการปวดหลังเกิดมาจากการอักเสบของบริเวณกล้ามเนื้อ อาจจะเกิดมาจากการใช้กล้ามเนื้อตรงบริเวณนั้นมากจนเกินไป หรือว่าได้รับอุบติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็อาจจะหายเองได้หากงดเว้นการใช้กล้ามเนื้อตรงบริเวณที่เกิดการอักเสบสักพัก หรือว่าใช้ยาทาภายนอกที่สามารถช่วยลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ แต่หากมีอาการปวดหลังที่พ่วงมาด้วยอาการอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ให้คุณรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียด มีอาการปวดที่บริเวณเดิม ๆ เป็นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 1 เดือน มีอาการปวดมากจนทำให้รู้สึกถึงความผิดปกติ อาการไม่ดีขึ้นเลย มีอาการปวดแบบเจ็บแปลบ ๆ เหมือนมีเข็มมาจิ้มตรงบริเวณที่มีอาการ อาการปวดร้าวยาวลงไปถึงต้นขา หรืออาจจะมีอาการขาอ่อนแรง, ปวดที่บริเวณปลีน่อง จนทำให้ไม่สามารถที่จะเดินได้ตามปกติ หรืออาจจะเดินได้นิดหน่อยก็เกิดอาการปวด ปวดตรงบริเวณก้นกบ โดยที่ไม่มีสาเหตุหรือว่ามาจากอุบัติเหตุใด ๆ อาการปวดหลังที่เกิดมาจากอุบัติเหตุที่รุนแรง อย่างเช่น อุบัติเหตุจราจร หรือตกจากที่สูงลงมา เกิดอาการปวดปัสสาวะแสบขัด, ปัสสาวะมีสีขุ่น หรืออาจจะมีไข้ร่วมกับอาการปวดที่หลังตรงบริเวณเอว (อาการแบบนี้อาจจะเป็นอาการเริ่มต้นของนิ่วในไต หรือว่าไตอักเสบ) มีอาการปวดต้นขา หรือบริเวณเท้ามีอาการชาทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้ตามปกติ อย่างเช่น ก้มตัว, ยืดตัวตรง, กลั้นปัสสาวะ หรืออุจจาระเริ่มไม่ค่อยอยู่ ดังนั้นท่านใดที่มีอาการตามที่กล่าวมา หรือมีคนที่ใกล้ชิด หรือเวลาหยุดทานยาอาการปวดก็จะกลับมาปวดใหม่อีกไม่หายสักที คุณต้องรีบไปปรึกษาแพทย์และให้แพทย์ทำการตรวจโดยละเอียด เพื่อที่จะหาสาเหตุของอาการที่แท้จริง และจะได้แก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุจะเป็นการดีที่สุด เพราะว่าถึงคุณจะทานยาคลายกล้ามเนื้อ […]