fbpx

วิธีการ บรรเทาอาการเกาต์ด้วยตัวเองที่บ้าน

บรรเทาอาการเกาต์ด้วยตัวเองที่บ้าน

        อาการของโรคเกาต์กำเริบเป็นสาเหตุทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดจนอาจจะทำให้เราตื่นขึ้นมากลางดึก โรคเกาต์เกิดมาจากการสะสมของผลึกยูเรตตรงบริเวณข้อต่อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นตรงบริเวณนิ้วหัวแม่เท้า แต่บางครั้งอาจจะเกิดขึ้นที่ข้อต่อบริเวณอื่น ๆ บนเท้าและมือก็ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งสามารถที่จะส่งผลทำให้ข้อต่อเกิดการเจ็บปวดและเกิดการอักเสบขึ้นได้ การรักษาโรคเกาต์ที่ได้ผลดีที่สุดคือการใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำ ซึ่งคนไข้สามารถส่งเสริมแนวทางการรักษากับแพทย์ได้ด้วยวิธีทำการรักษาด้วยตัวเองที่บ้าน เพื่อเป็นการจัดการกับอาการเจ็บปวด และการเปลี่ยนแปลงรูปแบบในการดำเนินชีวิต เพื่อเป็นการช่วยลดโอกาสที่โรคเกาต์จะกำเริบขึ้นมาใหม่อีกครั้งในอนาคต

วิธีการบรรเทาอาการด้วยตัวเองที่บ้าน

  1. ให้ยกส่วนที่มีอาการบวมให้สูงขึ้น วิธีนี้จะเป็นการช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้ดี หากอาการเกิดขึ้นที่บริเวณข้อเท้า ให้คนไข้เอนตัวลงนอนบนเตียง และให้ใช้หมอนหนุนเพื่อเป็นการพยุงเท้าขึ้นมา และถ้าหากเกิดการอักเสบมาก อาจจะส่งผลทำให้คนไข้เจ็บปวดมากจนไม่สามารถที่จะวางผ้าไว้บนเท้าได้
  2. ให้บรรเทาอาการเจ็บปวดที่บริเวณข้อต่อด้วยการประคบเย็น วิธีนี้จะเป็นการช่วยลดอาการอักเสบและอาการเจ็บปวดได้ โดยการนำน้ำแข็งมาประคบไว้ 20 นาที แล้วปล่อยเอาไว้สักพักจะทำให้ผิวหนังอุ่นขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผิวหนังถูกความเย็นทำลาย
  3. สามารถทานยาต้านการอักเสบที่ไม่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปยาต้านการอักเสบ จะช่วยทำให้ลดการอักเสบและความเจ็บปวดได้ดี ยาต้านอักเสบที่แพทย์แนะนำให้ทาน ได้แก่ ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) (เช่น Advil, Motrin IB) และนาพรอกเซนโซเดียม (naproxen sodium) (เช่น Aleve) โดยจะต้องทานยาทันทีถ้าหากเกิดอาการกำเริบขึ้น และสามารถทานยาซ้ำได้อีกครั้งหลังจากที่ผ่านไป 2 วัน ยาต้านอักเสบเหล่านี้แพทย์ไม่แนะนำให้ใช้กับคนที่มีแผลหรือว่ามีเลือดออกในกระเพาะอาหาร, มีปัญหาเกี่ยวกับตับ หรือว่ามีความดันโลหิตสูง ไม่ควรที่จะทานยาแอสไพริน เพราะว่าจะทำให้ระดับของกรดยูริกเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้นหากอาการของโรคเกาต์ไม่รุนแรงมากก็สามารถที่จะบรรเทาอาการได้ตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น แต่ถึงจะยังไงก็ตามก่อนที่จะชื้อยามาทานเอง คนไข้ก็ควรที่จะไปปรึกษากับแพทย์ เพราะถ้าหากคนไข้กำลังใช้ยาชนิดอื่นอยู่ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาใด ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *