หัวเข่าบวมและมีน้ำในหัวเข่า (Knee Effusion) เป็นภาวะที่เกิดจากการสะสมของน้ำหรือของเหลวภายในข้อเข่า ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการบาดเจ็บ การอักเสบ หรือโรคข้อเรื้อรังหลายชนิด หลายคนมักมองว่าเป็นเรื่องเล็กและคิดว่าเดี๋ยวก็หายเอง แต่ในความเป็นจริง อาการนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคร้ายแรง เช่น ข้อเข่าเสื่อม ข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือแม้แต่การติดเชื้อในข้อ หากละเลยอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวและคุณภาพชีวิตอย่างมาก
สาเหตุและประเภทของภาวะหัวเข่าบวมและมีน้ำในหัวเข่า
น้ำในหัวเข่าไม่ได้มีสาเหตุเดียว แต่สามารถแบ่งได้เป็นกลุ่มใหญ่ดังนี้
1. การบาดเจ็บ (Injury)
- การกระแทกแรงๆ จากการหกล้ม เล่นกีฬา หรืออุบัติเหตุ
- การฉีกขาดของหมอนรองกระดูกเข่า (Meniscus tear) หรือเอ็นไขว้หน้า (ACL tear)
2. โรคข้อเรื้อรัง (Chronic Joint Diseases)
- ข้อเข่าเสื่อม: กระดูกอ่อนสึกหรอ ทำให้เกิดการอักเสบและมีน้ำสะสม
- ข้ออักเสบรูมาตอยด์: โรคภูมิคุ้มกันทำลายเนื้อเยื่อข้อ
- โรคเก๊าท์: การสะสมของผลึกกรดยูริกในข้อ
3. การติดเชื้อในข้อ (Septic Arthritis)
- เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส อาจมาพร้อมไข้สูง ปวด บวมรุนแรง
- อาการและสัญญาณเตือนที่คุณควรรู้
หากมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย
- หัวเข่าบวมชัดเจน ขนาดใหญ่ขึ้นผิดปกติ
- รู้สึกตึงหรือแน่นในข้อเข่า
- ปวดข้อเข่า โดยเฉพาะเวลางอหรือเหยียดขา
- การเคลื่อนไหวข้อเข่าลดลง งอหรือเหยียดได้ไม่สุด
- อุ่นหรือร้อนบริเวณหัวเข่า
- มีไข้ หนาวสั่น (อาจบ่งบอกการติดเชื้อ)
การวินิจฉัยและการตรวจเบื้องต้น
แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และใช้การตรวจทางภาพและห้องปฏิบัติการ เช่น
- เอกซเรย์ (X-ray) เพื่อดูโครงสร้างข้อและกระดูก
- อัลตราซาวด์ข้อเข่า เพื่อดูปริมาณน้ำและสภาพเนื้อเยื่อ
- MRI ในกรณีต้องประเมินหมอนรองกระดูกหรือเอ็น
- การเจาะน้ำข้อ (Arthrocentesis) เพื่อดูสาเหตุ เช่น การติดเชื้อ หรือโรคเก๊าท์
แนวทางการรักษา: ทางเลือกที่หลากหลายเพื่อสุขภาพที่ดี
การรักษาแบบไม่ผ่าตัด
- การใช้ยา: ยาลดการอักเสบ (NSAIDs), ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (ฉีดเข้าข้อ)
- กายภาพบำบัด: การออกกำลังกายเฉพาะเพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบเข่า
- ประคบเย็น: ลดบวมและอักเสบในระยะเริ่มต้น
- การปรับพฤติกรรม: หลีกเลี่ยงการลงน้ำหนักมากเกินไป, ลดน้ำหนักในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน
การรักษาแบบผ่าตัด
- การส่องกล้องข้อเข่า (Arthroscopy) เพื่อตรวจและซ่อมแซมความเสียหายในข้อ
- การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ในกรณีข้อเข่าเสื่อมรุนแรงและรักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล
การดูแลตัวเองและการป้องกันในชีวิตประจำวัน
- รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
- ออกกำลังกายเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบเข่า เช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน
- ใช้อุปกรณ์พยุงเข่าเมื่อทำกิจกรรมที่เสี่ยง
- หลีกเลี่ยงการนั่งยองๆ หรือนั่งพับเพียบเป็นเวลานาน
- ตรวจสุขภาพข้อเข่าเป็นประจำ หากมีประวัติโรคข้อในครอบครัว
เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- บวม ปวด ร้อนแดง ที่หัวเข่าไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง
- ปวดรุนแรงจนเดินไม่ได้
- มีไข้สูงร่วมกับอาการบวม
- เคยได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าและอาการไม่ดีขึ้นหลังพัก
หัวเข่าบวมและมีน้ำในหัวเข่าไม่ควรถูกมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรง การตรวจวินิจฉัยและรักษาแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันความเสียหายถาวรต่อข้อเข่า
ช่องทางติดต่อ
“คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์”
โทร : 061-010-6396
LINE : @drsuttclinic (อย่าลืมใส่ @)
Facebook : คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์