fbpx

เริ่มปวด บ่า คอ ไหล่ อาการปวดที่ไม่ควรมองข้าม

ในยุคที่หลายคนทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ หรือก้มดูมือถือบ่อย ๆ อาการปวดบ่า คอ ไหล่ กลายเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย และมักถูกมองว่าเป็นแค่ความเมื่อยล้า แต่คุณรู้หรือไม่ว่า อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคกล้ามเนื้อเรื้อรัง เช่น Office Syndrome หรือแม้กระทั่งปัญหาเกี่ยวกับหมอนรองกระดูก
 
บทความนี้จัดทำโดยทีมแพทย์จากคลินิกเฉพาะทาง “หมอสุทธิ์” เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจสาเหตุ อาการ การรักษา และวิธีป้องกันอาการปวดบ่า คอ ไหล่อย่างถูกต้อง
 

สาเหตุและประเภทของอาการปวดบ่า คอ ไหล่

  • การใช้งานกล้ามเนื้อซ้ำๆ
  • นั่งทำงานหน้าคอมนาน ๆ โดยไม่มีการพักหรือเปลี่ยนอิริยาบถ
  • ยกของหนัก หรือสะพายกระเป๋าหนักข้างเดียว
  • การนอนผิดท่า เช่น นอนคว่ำ หรือนอนหมอนสูงเกินไป
  • ความเครียดและความวิตกกังวล
  • ความเครียดสามารถทำให้กล้ามเนื้อตึงตัวโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะบริเวณบ่าและคอ
  • ภาวะหรือโรคทางกระดูกและข้อ
  • หมอนรองกระดูกคอเสื่อม
  • เส้นประสาทถูกกดทับ
  • กล้ามเนื้อสะบักอักเสบเรื้อรัง
  • อาการและสัญญาณเตือนที่คุณควรรู้
 

อาการที่ไม่ควรมองข้าม ได้แก่:

  • ปวดตึงบริเวณต้นคอ บ่า หรือไหล่ โดยเฉพาะหลังตื่นนอนหรือหลังทำงานนาน
  • ปวดร้าวจากต้นคอไปยังแขน หรือสะบัก
  • ชาหรืออ่อนแรงบริเวณแขนหรือมือ
  • หันคอแล้วรู้สึกติดหรือมีเสียงดังในข้อคอ
  • ปวดศีรษะร่วมด้วย โดยเฉพาะบริเวณท้ายทอย
  • หากมีอาการเหล่านี้เรื้อรังเกิน 1-2 สัปดาห์ ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยทันที
 

การวินิจฉัยและการตรวจเบื้องต้น

  • แพทย์เฉพาะทางจะทำการวินิจฉัยด้วยวิธี:
  • ซักประวัติอาการโดยละเอียด
  • ตรวจร่างกาย ตรวจการเคลื่อนไหวของคอและไหล่
  • ตรวจระบบเส้นประสาทแขนและมือ
  • การถ่ายภาพเอกซเรย์ (X-ray) หรือ MRI หากสงสัยว่ามีการกดทับเส้นประสาท
  •  
 

แนวทางการรักษา: ทางเลือกที่หลากหลายเพื่อสุขภาพที่ดี

 
การรักษาแบบไม่ผ่าตัด
  • ใช้ยา: ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาลดอักเสบ หรือยาแก้ปวด
  • กายภาพบำบัด: เช่น การอัลตราซาวด์ การดึงคอ การใช้คลื่นไฟฟ้ากระตุ้น
  • การปรับพฤติกรรม: ปรับท่าทางขณะทำงาน พักสายตาเป็นระยะ และเปลี่ยนเก้าอี้ให้รองรับสรีระ
  • การบริหารกล้ามเนื้อ: ออกกำลังกายยืดเหยียดกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ อย่างสม่ำเสมอ
 
การรักษาแบบผ่าตัด (หากมีและจำเป็น)
  • ใช้ในกรณีที่มีการกดทับเส้นประสาทรุนแรง หรือรักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ดีขึ้น เช่น การผ่าตัดหมอนรองกระดูกคอ
 

การดูแลตัวเองและการป้องกันในชีวิตประจำวัน

  • จัดโต๊ะทำงานให้อยู่ในระดับสายตา
  • ไม่ก้มดูมือถือเป็นเวลานาน
  • เปลี่ยนอิริยาบถทุก 30-60 นาที
  • บริหารกล้ามเนื้อด้วยท่าง่าย ๆ เช่น หมุนคอ เอียงคอ บีบไหล่
  • นอนบนหมอนที่รองรับสรีระ ไม่สูงหรือต่ำเกินไป
  • เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์:
  • ปวดร้าวลงแขน ชา หรืออ่อนแรงบริเวณมือ
  • ปวดเรื้อรังเกิน 2 สัปดาห์โดยไม่ดีขึ้น
  • ปวดมากขึ้นเมื่อไอหรือจาม (อาจเป็นสัญญาณกดทับเส้นประสาท)
  • มีประวัติการบาดเจ็บมาก่อน
 
 
อาการปวดบ่า คอ ไหล่ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนยุคใหม่ โดยเฉพาะคนทำงานออฟฟิศ แม้อาการจะดูเล็กน้อย แต่หากละเลย อาจลุกลามจนกระทบการใช้ชีวิตประจำวันได้ การรู้เท่าทันอาการ สาเหตุ และวิธีการดูแลรักษา จะช่วยให้คุณป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
 
 
หากคุณหรือคนใกล้ชิดเริ่มมีอาการปวดบ่า คอ ไหล่ อย่าลังเลที่จะปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของคลินิกหมอสุทธิ์ เราพร้อมให้บริการด้วยเทคโนโลยีทันสมัย และแนวทางการรักษาที่ตรงจุด เพื่อให้คุณกลับมาใช้ชีวิตอย่างเต็มศักยภาพอีกครั้ง
 
ช่องทางติดต่อ
“คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์”
 
โทร : 061-010-6396
LINE : @drsuttclinic (อย่าลืมใส่ @)
Facebook : คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *