กล้ามเนื้ออักเสบ VS เอ็นอักเสบ: แยกยังไงดี?
เคยสงสัยไหมว่าอาการปวดที่เกิดขึ้นหลังการออกกำลังกายหรือการทำงานหนัก เป็น กล้ามเนื้ออักเสบ หรือ เอ็นอักเสบ? หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าทั้งสองอย่างเหมือนกัน ทั้งที่ความจริงแล้วมีความแตกต่างกันทั้งในแง่สาเหตุ อาการ การรักษา และการป้องกัน การรู้จักแยกแยะจะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้ถูกวิธี และหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บซ้ำได้ในอนาคต
สาเหตุและประเภทของโรค/อาการ
กล้ามเนื้ออักเสบเกิดจากอะไร?
กล้ามเนื้ออักเสบมักเกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อหนักเกินไป หรือการเคลื่อนไหวซ้ำๆ เช่น การยกของหนัก การเล่นกีฬาแบบหนักหน่วง หรือการบิดตัวผิดท่า อาจเกิดจากอุบัติเหตุ หรือในบางกรณีเกิดจากโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง
เอ็นอักเสบมีสาเหตุอย่างไร?
เอ็นอักเสบ (Tendinitis) มักเกิดจากการใช้ข้อต่อหรือเอ็นซ้ำๆ เกินขีดจำกัด เช่น การเล่นกีฬา เช่น เทนนิส กอล์ฟ หรือการทำงานที่ต้องเคลื่อนไหวแบบเดิมบ่อยๆ เอ็นที่อักเสบจะเกิดการบวม แดง และเจ็บ ทำให้ขยับข้อต่อได้ไม่เต็มที่
อาการและสัญญาณเตือนที่คุณควรรู้
- กล้ามเนื้ออักเสบ มักมีอาการดังนี้:
- ปวดลึกในกล้ามเนื้อ
- ตึงหรือเกร็งกล้ามเนื้อ
- บวม และอาจรู้สึกอุ่นบริเวณที่อักเสบ
- อาจมีรอยฟกช้ำหรือแดง
- เอ็นอักเสบ สังเกตได้จาก:
- ปวดเฉพาะจุดบริเวณที่เอ็นยึดติดกระดูก
- ปวดเวลาเคลื่อนไหวหรือขยับข้อต่อ
- อาจมีเสียง “คลิก” หรือ “กรอบแกรบ” ในข้อต่อ
- บวม แดง และกดเจ็บได้
การวินิจฉัยและการตรวจเบื้องต้น
แพทย์จะเริ่มจากซักประวัติการใช้งานร่างกาย การออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่ทำเป็นประจำ ร่วมกับการตรวจร่างกาย โดยอาจใช้การกดจุด การประเมินการเคลื่อนไหว หรือการตรวจภาพ เช่น อัลตราซาวด์ และ MRI เพื่อดูความเสียหายของกล้ามเนื้อหรือเอ็นอย่างละเอียด การวินิจฉัยที่แม่นยำช่วยให้เลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้
แนวทางการรักษา: ทางเลือกที่หลากหลายเพื่อสุขภาพที่ดี
การรักษาแบบไม่ผ่าตัด
- การพักใช้งานบริเวณที่บาดเจ็บ
- การประคบเย็นในระยะเริ่มต้น หรือประคบร้อนหลังจากผ่านไป 48 ชั่วโมง
- การใช้ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน
- การกายภาพบำบัด เช่น การนวด การยืดกล้ามเนื้อ การฝึกกล้ามเนื้อเพิ่มความแข็งแรง
- การใช้เครื่องช่วยพยุง เช่น เทปพยุงหรือเฝือกอ่อน
การรักษาแบบผ่าตัด (ในกรณีจำเป็น)
สำหรับบางกรณีที่การรักษาแบบอนุรักษ์ไม่ได้ผล เช่น เอ็นฉีกขาดรุนแรง หรือเอ็นเสื่อมมาก อาจต้องพิจารณาผ่าตัดซ่อมแซมหรือเย็บเอ็น ซึ่งแพทย์จะประเมินตามสภาพผู้ป่วยแต่ละราย
การดูแลตัวเองและการป้องกันในชีวิตประจำวัน
วิธีป้องกันการอักเสบซ้ำและดูแลตัวเอง:
- ควบคุมการใช้งานกล้ามเนื้อและเอ็น ไม่หักโหม
- อบอุ่นร่างกายก่อนการออกกำลังกาย และยืดเหยียดหลังเสร็จ
- ใช้อุปกรณ์ป้องกันหรือพยุงเวลาทำกิจกรรมที่เสี่ยง
- พักผ่อนให้เพียงพอและฟื้นฟูร่างกายสม่ำเสมอ
- ควบคุมน้ำหนัก เพื่อลดแรงกดต่อข้อต่อและเอ็น
เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
หากคุณมีอาการปวดที่ไม่ดีขึ้นภายใน 7-10 วัน หรือมีอาการบวมแดง ร้อน หรือขยับข้อต่อไม่ได้เต็มที่ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของการอักเสบหรือบาดเจ็บที่รุนแรง การรับการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และป้องกันภาวะแทรกซ้อนในอนาคต
สรุป
การแยกแยะระหว่าง กล้ามเนื้ออักเสบ และ เอ็นอักเสบ เป็นเรื่องสำคัญ เพราะแต่ละภาวะมีสาเหตุ การรักษา และการป้องกันที่แตกต่างกัน การฟังสัญญาณจากร่างกายและดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจะช่วยลดโอกาสเกิดการบาดเจ็บซ้ำ และช่วยให้กลับมาเคลื่อนไหวได้เต็มที่อย่างมั่นใจ
หากคุณหรือคนที่คุณรักกำลังสงสัยว่าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบหรือเอ็นอักเสบ อย่าลังเลที่จะเข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ คลินิกหมอสุทธิ์ เราพร้อมให้การวินิจฉัยอย่างแม่นยำ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด นัดหมายเพื่อปรึกษาแพทย์วันนี้!
ช่องทางติดต่อ
“คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์”
โทร : 061-010-6396
LINE : @drsuttclinic (อย่าลืมใส่ @)
Facebook : คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์