fbpx

จัดกระดูกเพื่ออะไร แล้วมีผลดี ผลเสียอย่างไร

ปัจจุบัน “การจัดกระดูก” (Chiropractic Adjustment หรือ Manual Manipulation) กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มคนที่มีอาการปวดหลัง ปวดคอ หรือออฟฟิศซินโดรม เพราะเชื่อว่าสามารถช่วย “คลายเส้น” หรือ “ปรับสมดุลของร่างกาย” ได้
 
แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า—การจัดกระดูกคืออะไรกันแน่? ช่วยรักษาอาการได้จริงหรือไม่? แล้วมีผลเสียหรือความเสี่ยงอะไรที่ควรรู้ก่อนเข้ารับการรักษาหรือเปล่า?
 
คลินิกหมอสุทธิ์ขออธิบายอย่างละเอียด เพื่อให้คุณเข้าใจทั้ง ประโยชน์ ข้อจำกัด และข้อควรระวังของการจัดกระดูก อย่างถูกต้องก่อนตัดสินใจ
 

การจัดกระดูกคืออะไร และทำเพื่ออะไร

 
การจัดกระดูกคือ เทคนิคการใช้มือหรือเครื่องมือกด ดัน หรือหมุนข้อในแนวกระดูกสันหลังหรือข้อต่อที่มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ เพื่อปรับให้ข้อต่อกลับมาอยู่ในแนวที่เหมาะสม ลดแรงกดทับเส้นประสาท และช่วยให้กล้ามเนื้อโดยรอบผ่อนคลาย
 

จุดประสงค์หลักของการจัดกระดูก

  • ปรับแนวกระดูกให้สมดุล โดยเฉพาะบริเวณ คอ หลัง เอว
  • ลดแรงกดทับเส้นประสาทที่อาจก่อให้เกิดอาการปวดร้าว
  • เพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของข้อต่อ (Range of Motion)
  • กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและการทำงานของกล้ามเนื้อ
  • ลดอาการปวดเรื้อรังจากกล้ามเนื้อหดเกร็งหรือข้อติด

ผู้ที่นิยมเข้ารับการจัดกระดูก

  • ผู้มีอาการปวดหลังเรื้อรังจากท่านั่งทำงานนาน
  • ผู้ที่มีอาการ ออฟฟิศซินโดรม, ปวดคอ บ่า ไหล่
  • ผู้ที่มี หมอนรองกระดูกเสื่อมเล็กน้อย หรือกล้ามเนื้อตึงจากการใช้งานหนัก
  • ผู้ที่ต้องการปรับท่าทาง (Posture) ให้ดีขึ้น
 
 

ผลดีของการจัดกระดูก (ประโยชน์ที่อาจได้รับ)

แม้ว่าผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและเทคนิคของผู้เชี่ยวชาญ แต่โดยทั่วไปแล้ว การจัดกระดูกสามารถช่วยในหลายด้าน ได้แก่
 
✅ 1. บรรเทาอาการปวดเมื่อยหลังและคอ
 เมื่อข้อต่อที่ติดหรือตึงได้รับการปรับแนวใหม่ จะลดแรงกดและการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ทำให้ปวดลดลง
 
✅ 2. ช่วยคลายกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนเลือด
การเคลื่อนไหวของข้อต่อที่ดีขึ้นทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี ส่งผลให้กล้ามเนื้อได้รับออกซิเจนมากขึ้น
 
✅ 3. เพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย
โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการข้อติดจากการนั่งหรือทำงานท่าเดิมนานๆ
 
✅ 4. ช่วยปรับท่าทางและแนวกระดูกสันหลัง
ลดความโค้งงอของหลัง ป้องกันภาวะหลังค่อม หรือไหล่เอียงในระยะยาว
 
✅ 5. ช่วยให้หลับดีขึ้น
เมื่อกล้ามเนื้อคลายตัวและไม่มีอาการปวดเรื้อรัง คุณภาพการนอนหลับจะดีขึ้นตามไปด้วย
 

ผลเสียหรือความเสี่ยงจากการจัดกระดูก

 
แม้การจัดกระดูกจะมีข้อดี แต่ก็ไม่เหมาะกับทุกคน และอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้หากทำโดยผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ
 
⚠️ 1. การจัดแรงเกินไป
อาจทำให้ ข้อต่อหรือเส้นเอ็นบาดเจ็บ, กล้ามเนื้ออักเสบ หรือเกิดการช้ำภายใน
 
⚠️ 2. การจัดผิดตำแหน่ง
หากจัดโดยบุคคลที่ไม่มีพื้นฐานด้านกายวิภาค อาจทำให้กระดูกเคลื่อนมากเกินไป ส่งผลให้ หมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือ กดทับเส้นประสาทเพิ่มขึ้น
 
⚠️ 3. อาการข้างเคียงหลังจัดกระดูก
หลังจัดอาจมีอาการปวดเมื่อยเล็กน้อย 1–2 วัน ซึ่งถือว่าเป็นการตอบสนองปกติของร่างกาย แต่หากมีอาการปวดรุนแรง ชา หรืออ่อนแรง ควรรีบพบแพทย์ทันที
 
⚠️ 4. ความเสี่ยงเฉพาะในบางกรณี
  • ในผู้ป่วยบางกลุ่ม เช่น
  • ผู้ที่เป็นโรค กระดูกพรุน
  • ผู้ที่มี หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทรุนแรง
  • ผู้ที่มี เนื้องอกหรือการติดเชื้อในกระดูกสันหลัง
  • การจัดกระดูกอาจเป็นอันตราย และควรหลีกเลี่ยง
 

การวินิจฉัยและตรวจประเมินก่อนจัดกระดูก

ก่อนการจัดกระดูก ควรได้รับการตรวจและประเมินโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ เพื่อแยกโรคหรือหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการ
 
ขั้นตอนการตรวจทั่วไป
  • ซักประวัติอาการ: เช่น ระยะเวลาที่ปวด ลักษณะการปวด
  • ตรวจร่างกาย: ประเมินแนวกระดูก กล้ามเนื้อ และการเคลื่อนไหว
  • การตรวจภาพถ่าย (X-ray / MRI): ใช้ในกรณีสงสัยหมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือมีกระดูกเสื่อม เพื่อความปลอดภัยในการจัด

 

แนวทางการรักษาและดูแลร่วมกับการจัดกระดูก

 
การจัดกระดูกเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการรักษาอาการปวดเรื้อรัง ควรดูแลร่วมกับวิธีอื่นเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

การรักษาแบบไม่ผ่าตัด

  • กายภาพบำบัด (Physical Therapy): ช่วยคลายกล้ามเนื้อและปรับสมดุลการเคลื่อนไหว
  • การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (Stretching): ป้องกันการกลับมาเกร็งซ้ำ
  • การใช้ยาแก้ปวดหรือยาคลายกล้ามเนื้อ: ในกรณีมีอาการอักเสบ
  • การปรับพฤติกรรม: นั่ง ยืน เดิน ให้ถูกท่าทาง
 

การรักษาแบบผ่าตัด

ในกรณีมีหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทรุนแรง หรือมีอาการอ่อนแรงมาก
แพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดเฉพาะจุด ซึ่งไม่เกี่ยวกับ “การจัดกระดูกทั่วไป”
 

การดูแลตัวเองและการป้องกันอาการปวดหลัง คอ หรือข้อ

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น ว่ายน้ำ เดินเร็ว หรือโยคะ
  • หลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนท่าเดิมนานเกินไป
  • ใช้หมอนและที่นอนที่พยุงแนวกระดูกได้ดี
  • รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพื่อลดแรงกดที่กระดูกสันหลัง
  • หากปวดเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการจัดกระดูกทุกครั้ง
 

เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ควรรีบพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ หากมีอาการดังนี้
 
  • ปวดหลังหรือคอร้าวลงแขนขา
  • มีอาการชา อ่อนแรง หรือเดินลำบาก
  • ปวดต่อเนื่องนานเกิน 2 สัปดาห์
  • เคยมีประวัติกระดูกหัก หรือกระดูกพรุน
 
 
 
การจัดกระดูกเป็นเทคนิคที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อได้ หากทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจโครงสร้างร่างกายและผ่านการอบรมทางการแพทย์อย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับวิธีนี้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับกระดูกหรือเส้นประสาท
 
ก่อนตัดสินใจเข้ารับการจัดกระดูก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการอย่างแม่นยำ และเลือกรูปแบบการรักษาที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณ
 

ช่องทางติดต่อ
“คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์”

โทร : 061-010-6396
LINE : @drsuttclinic (อย่าลืมใส่ @)
Facebook : คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *