fbpx

กล้ามเนื้ออักเสบ VS เอ็นอักเสบ: แยกยังไงดี?

กล้ามเนื้ออักเสบ VS เอ็นอักเสบ: แยกยังไงดี? 

 
เคยสงสัยไหมว่าอาการปวดที่เกิดขึ้นหลังการออกกำลังกายหรือการทำงานหนัก เป็น กล้ามเนื้ออักเสบ หรือ เอ็นอักเสบ? หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าทั้งสองอย่างเหมือนกัน ทั้งที่ความจริงแล้วมีความแตกต่างกันทั้งในแง่สาเหตุ อาการ การรักษา และการป้องกัน การรู้จักแยกแยะจะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้ถูกวิธี และหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บซ้ำได้ในอนาคต
 

สาเหตุและประเภทของโรค/อาการ 

กล้ามเนื้ออักเสบเกิดจากอะไร? 

กล้ามเนื้ออักเสบมักเกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อหนักเกินไป หรือการเคลื่อนไหวซ้ำๆ เช่น การยกของหนัก การเล่นกีฬาแบบหนักหน่วง หรือการบิดตัวผิดท่า อาจเกิดจากอุบัติเหตุ หรือในบางกรณีเกิดจากโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง
 

เอ็นอักเสบมีสาเหตุอย่างไร? 

เอ็นอักเสบ (Tendinitis) มักเกิดจากการใช้ข้อต่อหรือเอ็นซ้ำๆ เกินขีดจำกัด เช่น การเล่นกีฬา เช่น เทนนิส กอล์ฟ หรือการทำงานที่ต้องเคลื่อนไหวแบบเดิมบ่อยๆ เอ็นที่อักเสบจะเกิดการบวม แดง และเจ็บ ทำให้ขยับข้อต่อได้ไม่เต็มที่
 

อาการและสัญญาณเตือนที่คุณควรรู้ 

  • กล้ามเนื้ออักเสบ มักมีอาการดังนี้:
  • ปวดลึกในกล้ามเนื้อ
  • ตึงหรือเกร็งกล้ามเนื้อ
  • บวม และอาจรู้สึกอุ่นบริเวณที่อักเสบ
  • อาจมีรอยฟกช้ำหรือแดง
  • เอ็นอักเสบ สังเกตได้จาก:
  • ปวดเฉพาะจุดบริเวณที่เอ็นยึดติดกระดูก
  • ปวดเวลาเคลื่อนไหวหรือขยับข้อต่อ
  • อาจมีเสียง “คลิก” หรือ “กรอบแกรบ” ในข้อต่อ
  • บวม แดง และกดเจ็บได้
 

การวินิจฉัยและการตรวจเบื้องต้น

แพทย์จะเริ่มจากซักประวัติการใช้งานร่างกาย การออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่ทำเป็นประจำ ร่วมกับการตรวจร่างกาย โดยอาจใช้การกดจุด การประเมินการเคลื่อนไหว หรือการตรวจภาพ เช่น อัลตราซาวด์ และ MRI เพื่อดูความเสียหายของกล้ามเนื้อหรือเอ็นอย่างละเอียด การวินิจฉัยที่แม่นยำช่วยให้เลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้
 

แนวทางการรักษา: ทางเลือกที่หลากหลายเพื่อสุขภาพที่ดี 

การรักษาแบบไม่ผ่าตัด

  • การพักใช้งานบริเวณที่บาดเจ็บ
  • การประคบเย็นในระยะเริ่มต้น หรือประคบร้อนหลังจากผ่านไป 48 ชั่วโมง
  • การใช้ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน
  • การกายภาพบำบัด เช่น การนวด การยืดกล้ามเนื้อ การฝึกกล้ามเนื้อเพิ่มความแข็งแรง
  • การใช้เครื่องช่วยพยุง เช่น เทปพยุงหรือเฝือกอ่อน
 

การรักษาแบบผ่าตัด (ในกรณีจำเป็น) 

สำหรับบางกรณีที่การรักษาแบบอนุรักษ์ไม่ได้ผล เช่น เอ็นฉีกขาดรุนแรง หรือเอ็นเสื่อมมาก อาจต้องพิจารณาผ่าตัดซ่อมแซมหรือเย็บเอ็น ซึ่งแพทย์จะประเมินตามสภาพผู้ป่วยแต่ละราย
 

การดูแลตัวเองและการป้องกันในชีวิตประจำวัน 

วิธีป้องกันการอักเสบซ้ำและดูแลตัวเอง:
 
  • ควบคุมการใช้งานกล้ามเนื้อและเอ็น ไม่หักโหม
  • อบอุ่นร่างกายก่อนการออกกำลังกาย และยืดเหยียดหลังเสร็จ
  • ใช้อุปกรณ์ป้องกันหรือพยุงเวลาทำกิจกรรมที่เสี่ยง
  • พักผ่อนให้เพียงพอและฟื้นฟูร่างกายสม่ำเสมอ
  • ควบคุมน้ำหนัก เพื่อลดแรงกดต่อข้อต่อและเอ็น
 

เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 

หากคุณมีอาการปวดที่ไม่ดีขึ้นภายใน 7-10 วัน หรือมีอาการบวมแดง ร้อน หรือขยับข้อต่อไม่ได้เต็มที่ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของการอักเสบหรือบาดเจ็บที่รุนแรง การรับการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และป้องกันภาวะแทรกซ้อนในอนาคต
 
สรุป 
การแยกแยะระหว่าง กล้ามเนื้ออักเสบ และ เอ็นอักเสบ เป็นเรื่องสำคัญ เพราะแต่ละภาวะมีสาเหตุ การรักษา และการป้องกันที่แตกต่างกัน การฟังสัญญาณจากร่างกายและดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจะช่วยลดโอกาสเกิดการบาดเจ็บซ้ำ และช่วยให้กลับมาเคลื่อนไหวได้เต็มที่อย่างมั่นใจ
 
 
หากคุณหรือคนที่คุณรักกำลังสงสัยว่าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบหรือเอ็นอักเสบ อย่าลังเลที่จะเข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ คลินิกหมอสุทธิ์ เราพร้อมให้การวินิจฉัยอย่างแม่นยำ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด นัดหมายเพื่อปรึกษาแพทย์วันนี้!
 

ช่องทางติดต่อ
“คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์”

โทร : 061-010-6396
LINE : @drsuttclinic (อย่าลืมใส่ @)
Facebook : คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *