fbpx

5 สัญญาณอันตรายของข้อเข่าเสื่อม ที่คุณไม่ควรมองข้าม

“ข้อเข่าเสื่อม” ไม่ใช่เรื่องของผู้สูงวัยเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ในปัจจุบัน คนวัยทำงาน หรือแม้แต่นักกีฬา ก็สามารถเผชิญปัญหานี้ได้หากใช้ข้อเข่าอย่างผิดวิธีเป็นเวลานาน ความเข้าใจผิดและการมองข้ามอาการเริ่มต้นของโรคข้อเข่าเสื่อม อาจนำไปสู่ภาวะเรื้อรังที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน และอาจต้องถึงขั้นผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า
บทความนี้จึงจะพาคุณไปรู้จักกับ “5 สัญญาณอันตรายของข้อเข่าเสื่อม” ที่ควรระวัง พร้อมแนวทางการดูแล รักษา และป้องกันอย่างเหมาะสม

สาเหตุและประเภทของโรคข้อเข่าเสื่อม
 
สาเหตุหลักของโรคข้อเข่าเสื่อม
    • โรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) เกิดจากการสึกหรอของกระดูกอ่อนในข้อเข่า ซึ่งมีหน้าที่ช่วยลดแรงเสียดทานเมื่อเราเคลื่อนไหว เมื่อกระดูกอ่อนเสื่อมลง กระดูกจะเสียดสีกันโดยตรง ทำให้เกิดอาการปวด ขัด ฝืด และบวม
 
ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดข้อเข่าเสื่อม ได้แก่:
    • อายุที่มากขึ้น
    • น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน
    • การใช้งานข้อเข่าอย่างหนัก เช่น ยืน เดิน หรือยกของเป็นเวลานาน
    • การบาดเจ็บบริเวณเข่า
    • พันธุกรรม และโรคข้ออักเสบอื่นๆ
 
ประเภทของข้อเข่าเสื่อม
    • ข้อเข่าเสื่อมปฐมภูมิ (Primary OA): เกิดจากอายุที่มากขึ้นโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน
    • ข้อเข่าเสื่อมทุติยภูมิ (Secondary OA): เกิดจากปัจจัยอื่น เช่น การบาดเจ็บ โรคข้ออักเสบ หรือความผิดปกติของข้อ
อาการและสัญญาณเตือนที่คุณควรรู้

หากคุณมีอาการเหล่านี้ นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของ “ข้อเข่าเสื่อม” ที่ไม่ควรมองข้าม:
    • ปวดข้อเข่าขณะเดิน ขึ้นลงบันได หรือหลังนั่งนาน
    • เสียงดังในข้อเข่าเวลาขยับ เช่น เสียง “ก๊อบแก๊บ” หรือ “กรอบแกรบ”
    • ข้อเข่าฝืดหรือติดในตอนเช้า ต้องใช้เวลานานกว่าจะขยับได้ปกติ
    • ข้อเข่าบวม อุ่น แดง หรือมีการอักเสบเป็นครั้งคราว
    • ขาโก่ง หรือเดินแล้วรู้สึกไม่มั่นคง เดินได้ไม่ไกลเหมือนเดิม

หากมีอาการตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไป ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินทันที

การวินิจฉัยและการตรวจเบื้องต้น
แพทย์จะเริ่มจากการซักประวัติและตรวจร่างกาย เช่น การกดจุดเจ็บ การวัดองศาการเคลื่อนไหวของข้อเข่า จากนั้นอาจมีการตรวจเพิ่มเติม เช่น:
  • เอกซเรย์ข้อเข่า: เพื่อดูการสึกของกระดูกอ่อน ช่องว่างข้อ และกระดูกงอก
  • MRI (ในบางราย): ใช้ดูรายละเอียดของกระดูกอ่อนและเส้นเอ็นรอบข้อ
  • การตรวจเลือด: เพื่อแยกโรคข้ออักเสบจากสาเหตุอื่น เช่น โรคเก๊าท์ หรือรูมาตอยด์
 
แนวทางการรักษา: ทางเลือกที่หลากหลายเพื่อสุขภาพที่ดี
การรักษาแบบไม่ผ่าตัด
  • การใช้ยา: เช่น ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs), ยาลดปวด หรือยากลุ่มเสริมกระดูกอ่อน
  • การกายภาพบำบัด: เน้นการบริหารกล้ามเนื้อรอบเข่าเพื่อพยุงข้อให้มั่นคงขึ้น
  • การฉีดยาลดอักเสบ/น้ำหล่อเลี้ยงข้อ (Hyaluronic acid): ช่วยลดแรงเสียดทานและอาการปวด
  • การปรับพฤติกรรม:
    • ควบคุมน้ำหนัก
    • หลีกเลี่ยงการนั่งพับเพียบหรือนั่งยอง
    • เลือกรองเท้าที่มีพื้นนุ่มและมีแรงรับแรงกระแทก
การรักษาแบบผ่าตัด
ในกรณีที่รักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ดีขึ้น หรือข้อเข่ามีการเสื่อมมาก แพทย์อาจพิจารณา:
  • การส่องกล้องล้างข้อ: สำหรับรายที่มีเศษกระดูกหรือเยื่อบุข้ออักเสบ
  • การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม: เป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาเดินได้อย่างมั่นคงและไร้ความเจ็บปวดในระยะยาว
 
การดูแลตัวเองและการป้องกันในชีวิตประจำวัน

 

แม้ข้อเข่าเสื่อมจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมสามารถชะลอการเสื่อมและลดอาการได้:
 
🟢 ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์
 
🟢 ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน
 
🟢 หลีกเลี่ยงการงอเข่ามาก เช่น นั่งพับเพียบ หรือนั่งกับพื้น
 
🟢 ใช้อุปกรณ์ช่วยพยุง เช่น สนับเข่า หรือไม้เท้า หากจำเป็น
 
🟢 เลือกทานอาหารที่มีแคลเซียม วิตามินดี และไขมันต่ำ
 
เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
หากคุณมีอาการปวดเข่าซ้ำ ๆ โดยไม่ดีขึ้นใน 2–4 สัปดาห์, เข่าบวมแดง หรือมีเสียงผิดปกติในเข่าบ่อยครั้ง
นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางทันที โดยเฉพาะหากอาการเริ่มรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น เดินได้ไม่ไกล หรือทำกิจกรรมที่เคยทำได้ลำบากขึ้น
 

สรุป

โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นปัญหาสุขภาพที่ใกล้ตัวมากกว่าที่คุณคิด โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานที่เริ่มมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการใช้งานข้อเข่าอย่างไม่เหมาะสม การใส่ใจสัญญาณเตือนตั้งแต่เนิ่น ๆ และเข้ารับการตรวจวินิจฉัยตั้งแต่ระยะแรก จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการผ่าตัดในอนาคตได้มาก
 
หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการปวดข้อเข่าหรือสงสัยว่าอาจเป็น “ข้อเข่าเสื่อม”
อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์เฉพาะทางที่คลินิกหมอสุทธิ์
เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อและกระดูก เพื่อวินิจฉัยและดูแลคุณอย่างใกล้ชิด
“เพื่อเริ่มต้นการเดินอย่างมั่นคงในทุกก้าว”
 
 
 

ช่องทางติดต่อ

“คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์”

โทร : 061-010-6396
LINE : @drsuttclinic (อย่าลืมใส่ @)
Facebook : คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *