fbpx

หัวเข่าบวมและมีน้ำในหัวเข่า สัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

หัวเข่าบวมและมีน้ำในหัวเข่า (Knee Effusion) เป็นภาวะที่เกิดจากการสะสมของน้ำหรือของเหลวภายในข้อเข่า ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการบาดเจ็บ การอักเสบ หรือโรคข้อเรื้อรังหลายชนิด หลายคนมักมองว่าเป็นเรื่องเล็กและคิดว่าเดี๋ยวก็หายเอง แต่ในความเป็นจริง อาการนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคร้ายแรง เช่น ข้อเข่าเสื่อม ข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือแม้แต่การติดเชื้อในข้อ หากละเลยอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวและคุณภาพชีวิตอย่างมาก
 

สาเหตุและประเภทของภาวะหัวเข่าบวมและมีน้ำในหัวเข่า

น้ำในหัวเข่าไม่ได้มีสาเหตุเดียว แต่สามารถแบ่งได้เป็นกลุ่มใหญ่ดังนี้
 
1. การบาดเจ็บ (Injury)
  • การกระแทกแรงๆ จากการหกล้ม เล่นกีฬา หรืออุบัติเหตุ
  • การฉีกขาดของหมอนรองกระดูกเข่า (Meniscus tear) หรือเอ็นไขว้หน้า (ACL tear)
 
2. โรคข้อเรื้อรัง (Chronic Joint Diseases)
  • ข้อเข่าเสื่อม: กระดูกอ่อนสึกหรอ ทำให้เกิดการอักเสบและมีน้ำสะสม
  • ข้ออักเสบรูมาตอยด์: โรคภูมิคุ้มกันทำลายเนื้อเยื่อข้อ
  • โรคเก๊าท์: การสะสมของผลึกกรดยูริกในข้อ
 
3. การติดเชื้อในข้อ (Septic Arthritis)
เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส อาจมาพร้อมไข้สูง ปวด บวมรุนแรง
 

อาการและสัญญาณเตือนที่คุณควรรู้

หากมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย
 
  • หัวเข่าบวมชัดเจน ขนาดใหญ่ขึ้นผิดปกติ
  • รู้สึกตึงหรือแน่นในข้อเข่า
  • ปวดข้อเข่า โดยเฉพาะเวลางอหรือเหยียดขา
  • การเคลื่อนไหวข้อเข่าลดลง งอหรือเหยียดได้ไม่สุด
  • อุ่นหรือร้อนบริเวณหัวเข่า
  • มีไข้ หนาวสั่น (อาจบ่งบอกการติดเชื้อ)
 

การวินิจฉัยและการตรวจเบื้องต้น

แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และใช้การตรวจทางภาพและห้องปฏิบัติการ เช่น
 
  • เอกซเรย์ (X-ray) เพื่อดูโครงสร้างข้อและกระดูก
  • อัลตราซาวด์ข้อเข่า เพื่อดูปริมาณน้ำและสภาพเนื้อเยื่อ
  • MRI ในกรณีต้องประเมินหมอนรองกระดูกหรือเอ็น
  • การเจาะน้ำข้อ (Arthrocentesis) เพื่อดูสาเหตุ เช่น การติดเชื้อ หรือโรคเก๊าท์
 
แนวทางการรักษา: ทางเลือกที่หลากหลายเพื่อสุขภาพที่ดี
 

การรักษาแบบไม่ผ่าตัด

  • การใช้ยา: ยาลดการอักเสบ (NSAIDs), ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (ฉีดเข้าข้อ)
  • กายภาพบำบัด: การออกกำลังกายเฉพาะเพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบเข่า
  • ประคบเย็น: ลดบวมและอักเสบในระยะเริ่มต้น
  • การปรับพฤติกรรม: หลีกเลี่ยงการลงน้ำหนักมากเกินไป, ลดน้ำหนักในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน
 

การรักษาแบบผ่าตัด

  • การส่องกล้องข้อเข่า (Arthroscopy) เพื่อตรวจและซ่อมแซมความเสียหายในข้อ
  • การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ในกรณีข้อเข่าเสื่อมรุนแรงและรักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล
 

การดูแลตัวเองและการป้องกันในชีวิตประจำวัน

  • รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
  • ออกกำลังกายเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบเข่า เช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน
  • ใช้อุปกรณ์พยุงเข่าเมื่อทำกิจกรรมที่เสี่ยง
  • หลีกเลี่ยงการนั่งยองๆ หรือนั่งพับเพียบเป็นเวลานาน
  • ตรวจสุขภาพข้อเข่าเป็นประจำ หากมีประวัติโรคข้อในครอบครัว
 
เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
 
  • บวม ปวด ร้อนแดง ที่หัวเข่าไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง
  • ปวดรุนแรงจนเดินไม่ได้
  • มีไข้สูงร่วมกับอาการบวม
  • เคยได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าและอาการไม่ดีขึ้นหลังพัก
 
 
หัวเข่าบวมและมีน้ำในหัวเข่าไม่ควรถูกมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรง การตรวจวินิจฉัยและรักษาแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันความเสียหายถาวรต่อข้อเข่า
 

ช่องทางติดต่อ
“คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์”

โทร : 061-010-6396
LINE : @drsuttclinic (อย่าลืมใส่ @)
Facebook : คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *