fbpx

ฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเข้าข้อเข่า ช่วยลดอาการปวดเข่า ได้จริงหรือไม่?

อาการปวดข้อเข่าเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีภาวะข้อเข่าเสื่อม การรักษามีหลายวิธี หนึ่งในนั้นคือ “การฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเข้าข้อเข่า” หรือ การฉีดสารไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งถูกพูดถึงมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายคนสงสัยว่าการฉีดวิธีนี้ช่วยบรรเทาอาการปวดได้จริงหรือไม่ และมีข้อดีข้อเสียอย่างไร บทความนี้เราจะอธิบายให้ครบตั้งแต่หลักการทำงาน ข้อบ่งชี้ ความปลอดภัย ไปจนถึงการดูแลหลังฉีด
 

สาเหตุและประเภทของอาการปวดเข่า

1. ข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis)
 
เกิดจากการสึกหรอของกระดูกอ่อนผิวข้อ ทำให้ผิวข้อขรุขระและการเคลื่อนไหวเกิดแรงเสียดทานมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการอักเสบและปวด
 
2. การบาดเจ็บหรือใช้งานข้อเข่าหนักเกินไป
 
เช่น การเล่นกีฬาอย่างหนัก การยกของหนัก หรืออุบัติเหตุ อาจทำให้เกิดการอักเสบหรือบาดเจ็บของเนื้อเยื่อรอบข้อ
 
  • อาการและสัญญาณเตือนที่ควรรู้
  • หากมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย
  • ปวดข้อเข่าเวลาลุกนั่งหรือเดิน
  • รู้สึกตึงหรือฝืดขัดในข้อเข่า
  • ข้อเข่ามีเสียงดัง “กรอบแกรบ” ขณะเคลื่อนไหว
  • เข่าบวม แดง หรือมีความร้อน
  • เคลื่อนไหวข้อเข่าได้ไม่สุดเหมือนเดิม
  • การวินิจฉัยและการตรวจเบื้องต้น
 
แพทย์จะเริ่มจากการซักประวัติและตรวจร่างกาย อาจใช้การถ่ายภาพเอกซเรย์ (X-ray) เพื่อดูความรุนแรงของข้อเข่าเสื่อม หรือการตรวจ MRI เพื่อดูรายละเอียดของกระดูกอ่อน เส้นเอ็น และเนื้อเยื่อรอบข้อ
 

แนวทางการรักษา: ทางเลือกที่หลากหลายเพื่อสุขภาพที่ดี

การรักษาแบบไม่ผ่าตัด
 
  • การปรับพฤติกรรม: ลดน้ำหนัก ออกกำลังกายเสริมกล้ามเนื้อรอบเข่า
  • การใช้ยา: เช่น ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) หรือยาพาราเซตามอล
  • กายภาพบำบัด: เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและการทรงตัว
  • การฉีดน้ำหล่อเลี้ยงข้อเข่า: การฉีดสารไฮยาลูโรนิกเข้าข้อ เพื่อเพิ่มความลื่น ลดแรงเสียดทาน และลดอาการปวด
 
กลไกการทำงานของการฉีดน้ำหล่อเลี้ยง
 
สารไฮยาลูโรนิกมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความหนืดของน้ำหล่อเลี้ยงข้อ ลดการเสียดสี และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบในระดับหนึ่ง
 

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีข้อเข่าเสื่อมระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
  • ผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาและกายภาพบำบัด
  • ผู้ที่ยังไม่ต้องการหรือยังไม่เหมาะสมสำหรับการผ่าตัด
ผลลัพธ์และข้อจำกัด
 
  • ช่วยลดอาการปวดและเพิ่มการเคลื่อนไหวของข้อได้ 6–12 เดือนในบางราย
  • ไม่สามารถซ่อมแซมกระดูกอ่อนที่สึกหรอได้
  • ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและระดับความรุนแรงของโรค
 
การรักษาแบบผ่าตัด
 
เช่น การส่องกล้องผ่าตัดข้อ การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เหมาะกับผู้ที่มีข้อเข่าเสื่อมรุนแรงและการรักษาอื่นไม่ได้ผล
  • การดูแลตัวเองและการป้องกันในชีวิตประจำวัน
  • รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์
  • ออกกำลังกายเสริมกล้ามเนื้อรอบเข่า เช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน
  • หลีกเลี่ยงการนั่งยอง ๆ หรือขึ้นลงบันไดบ่อย
  • ใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงเข่าเมื่อต้องเดินไกล
 
เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
 
  • อาการปวดเข่าเรื้อรังเกิน 3 เดือน
  • การเคลื่อนไหวข้อเข่าลดลงอย่างชัดเจน
  • อาการปวดรบกวนการนอนหรือการใช้ชีวิตประจำวัน
  • มีอาการบวมร้อนร่วมกับไข้ (อาจเป็นข้ออักเสบติดเชื้อ)
 
 
 
การฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเข้าข้อเข่าเป็นหนึ่งในวิธีรักษาที่ช่วยบรรเทาอาการปวดและเพิ่มการเคลื่อนไหวได้ในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมบางราย แต่ไม่ใช่วิธีรักษาที่ใช้ได้กับทุกคน และไม่ได้หยุดความเสื่อมของข้อ การประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *