ปัจจุบัน “การจัดกระดูก” (Chiropractic Adjustment หรือ Manual Manipulation) กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มคนที่มีอาการปวดหลัง ปวดคอ หรือออฟฟิศซินโดรม เพราะเชื่อว่าสามารถช่วย “คลายเส้น” หรือ “ปรับสมดุลของร่างกาย” ได้
แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า—การจัดกระดูกคืออะไรกันแน่? ช่วยรักษาอาการได้จริงหรือไม่? แล้วมีผลเสียหรือความเสี่ยงอะไรที่ควรรู้ก่อนเข้ารับการรักษาหรือเปล่า?
คลินิกหมอสุทธิ์ขออธิบายอย่างละเอียด เพื่อให้คุณเข้าใจทั้ง ประโยชน์ ข้อจำกัด และข้อควรระวังของการจัดกระดูก อย่างถูกต้องก่อนตัดสินใจ
การจัดกระดูกคืออะไร และทำเพื่ออะไร
การจัดกระดูกคือ เทคนิคการใช้มือหรือเครื่องมือกด ดัน หรือหมุนข้อในแนวกระดูกสันหลังหรือข้อต่อที่มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ เพื่อปรับให้ข้อต่อกลับมาอยู่ในแนวที่เหมาะสม ลดแรงกดทับเส้นประสาท และช่วยให้กล้ามเนื้อโดยรอบผ่อนคลาย
จุดประสงค์หลักของการจัดกระดูก
- ปรับแนวกระดูกให้สมดุล โดยเฉพาะบริเวณ คอ หลัง เอว
- ลดแรงกดทับเส้นประสาทที่อาจก่อให้เกิดอาการปวดร้าว
- เพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของข้อต่อ (Range of Motion)
- กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและการทำงานของกล้ามเนื้อ
- ลดอาการปวดเรื้อรังจากกล้ามเนื้อหดเกร็งหรือข้อติด
ผู้ที่นิยมเข้ารับการจัดกระดูก
- ผู้มีอาการปวดหลังเรื้อรังจากท่านั่งทำงานนาน
- ผู้ที่มีอาการ ออฟฟิศซินโดรม, ปวดคอ บ่า ไหล่
- ผู้ที่มี หมอนรองกระดูกเสื่อมเล็กน้อย หรือกล้ามเนื้อตึงจากการใช้งานหนัก
- ผู้ที่ต้องการปรับท่าทาง (Posture) ให้ดีขึ้น
ผลดีของการจัดกระดูก (ประโยชน์ที่อาจได้รับ)
แม้ว่าผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและเทคนิคของผู้เชี่ยวชาญ แต่โดยทั่วไปแล้ว การจัดกระดูกสามารถช่วยในหลายด้าน ได้แก่
✅ 1. บรรเทาอาการปวดเมื่อยหลังและคอ
เมื่อข้อต่อที่ติดหรือตึงได้รับการปรับแนวใหม่ จะลดแรงกดและการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ทำให้ปวดลดลง
✅ 2. ช่วยคลายกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนเลือด
การเคลื่อนไหวของข้อต่อที่ดีขึ้นทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี ส่งผลให้กล้ามเนื้อได้รับออกซิเจนมากขึ้น
✅ 3. เพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย
โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการข้อติดจากการนั่งหรือทำงานท่าเดิมนานๆ
✅ 4. ช่วยปรับท่าทางและแนวกระดูกสันหลัง
ลดความโค้งงอของหลัง ป้องกันภาวะหลังค่อม หรือไหล่เอียงในระยะยาว
✅ 5. ช่วยให้หลับดีขึ้น
เมื่อกล้ามเนื้อคลายตัวและไม่มีอาการปวดเรื้อรัง คุณภาพการนอนหลับจะดีขึ้นตามไปด้วย
ผลเสียหรือความเสี่ยงจากการจัดกระดูก
แม้การจัดกระดูกจะมีข้อดี แต่ก็ไม่เหมาะกับทุกคน และอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้หากทำโดยผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ
⚠️ 1. การจัดแรงเกินไป
อาจทำให้ ข้อต่อหรือเส้นเอ็นบาดเจ็บ, กล้ามเนื้ออักเสบ หรือเกิดการช้ำภายใน
⚠️ 2. การจัดผิดตำแหน่ง
หากจัดโดยบุคคลที่ไม่มีพื้นฐานด้านกายวิภาค อาจทำให้กระดูกเคลื่อนมากเกินไป ส่งผลให้ หมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือ กดทับเส้นประสาทเพิ่มขึ้น
⚠️ 3. อาการข้างเคียงหลังจัดกระดูก
หลังจัดอาจมีอาการปวดเมื่อยเล็กน้อย 1–2 วัน ซึ่งถือว่าเป็นการตอบสนองปกติของร่างกาย แต่หากมีอาการปวดรุนแรง ชา หรืออ่อนแรง ควรรีบพบแพทย์ทันที
⚠️ 4. ความเสี่ยงเฉพาะในบางกรณี
- ในผู้ป่วยบางกลุ่ม เช่น
- ผู้ที่เป็นโรค กระดูกพรุน
- ผู้ที่มี หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทรุนแรง
- ผู้ที่มี เนื้องอกหรือการติดเชื้อในกระดูกสันหลัง
- การจัดกระดูกอาจเป็นอันตราย และควรหลีกเลี่ยง
การวินิจฉัยและตรวจประเมินก่อนจัดกระดูก
ก่อนการจัดกระดูก ควรได้รับการตรวจและประเมินโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ เพื่อแยกโรคหรือหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการ
ขั้นตอนการตรวจทั่วไป
- ซักประวัติอาการ: เช่น ระยะเวลาที่ปวด ลักษณะการปวด
- ตรวจร่างกาย: ประเมินแนวกระดูก กล้ามเนื้อ และการเคลื่อนไหว
- การตรวจภาพถ่าย (X-ray / MRI): ใช้ในกรณีสงสัยหมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือมีกระดูกเสื่อม เพื่อความปลอดภัยในการจัด
แนวทางการรักษาและดูแลร่วมกับการจัดกระดูก
การจัดกระดูกเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการรักษาอาการปวดเรื้อรัง ควรดูแลร่วมกับวิธีอื่นเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
การรักษาแบบไม่ผ่าตัด
- กายภาพบำบัด (Physical Therapy): ช่วยคลายกล้ามเนื้อและปรับสมดุลการเคลื่อนไหว
- การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (Stretching): ป้องกันการกลับมาเกร็งซ้ำ
- การใช้ยาแก้ปวดหรือยาคลายกล้ามเนื้อ: ในกรณีมีอาการอักเสบ
- การปรับพฤติกรรม: นั่ง ยืน เดิน ให้ถูกท่าทาง
การรักษาแบบผ่าตัด
ในกรณีมีหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทรุนแรง หรือมีอาการอ่อนแรงมาก
แพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดเฉพาะจุด ซึ่งไม่เกี่ยวกับ “การจัดกระดูกทั่วไป”
การดูแลตัวเองและการป้องกันอาการปวดหลัง คอ หรือข้อ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น ว่ายน้ำ เดินเร็ว หรือโยคะ
- หลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนท่าเดิมนานเกินไป
- ใช้หมอนและที่นอนที่พยุงแนวกระดูกได้ดี
- รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพื่อลดแรงกดที่กระดูกสันหลัง
- หากปวดเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการจัดกระดูกทุกครั้ง
เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ควรรีบพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ หากมีอาการดังนี้
- ปวดหลังหรือคอร้าวลงแขนขา
- มีอาการชา อ่อนแรง หรือเดินลำบาก
- ปวดต่อเนื่องนานเกิน 2 สัปดาห์
- เคยมีประวัติกระดูกหัก หรือกระดูกพรุน
การจัดกระดูกเป็นเทคนิคที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อได้ หากทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจโครงสร้างร่างกายและผ่านการอบรมทางการแพทย์อย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับวิธีนี้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับกระดูกหรือเส้นประสาท
ก่อนตัดสินใจเข้ารับการจัดกระดูก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการอย่างแม่นยำ และเลือกรูปแบบการรักษาที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณ
ช่องทางติดต่อ
“คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์”
โทร : 061-010-6396
LINE : @drsuttclinic (อย่าลืมใส่ @)
Facebook : คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์