fbpx

กินไก่เป็นโรคเกาต์?

กินไก่เป็นโรคเกาต์

 

          โรคเกาต์  เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่ง ที่ส่วนใหญ่แล้วมักจะพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง จึงทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าคนที่จะเป็นโรคเกาต์ คือจะต้องเป็นคนที่กินไก่เยอะมาก ๆ แน่นอนเลย ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วสาเหตุของการเกิดโรคเกาต์ส่วนใหญ่จะเกิดมาจากกระบวนการของร่างกายที่เกิดความผิดปกตินั่นเอง

 

         โรคเกาต์มีต้นเหตุมาจากการที่ร่างกายมีสารพิวรีน ที่เกิดจากกระบวนการสลายตัวของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายของเราสลายตัวต่ออีกทีได้กรดยูริก ซึ่งปกติแล้วกรดยูริกนี้ 2 ใน 3 จะถูกขับออกผ่านทางไต และ 1 ใน 3 ก็จะถูกสลายด้วยแบคทีเรียในลำไส้นั่นก็แสดงว่าถ้าหากไตของเราไม่มีปัญหาร่างกายของเราก็สามารถที่จะขับกรดยูริกออกได้ตามปกติ  จึงไม่มีการสะสมของกรดยูริกที่บริเวณไขข้อ แต่ถ้าคนไหนที่มีภาวะไตเสื่อม หรือว่าอาจจะได้รับผลข้างเคียงจากยาบางชนิด  กรดยูริกก็จะถูกขับออกทางไตได้น้อยลง ทำให้กรดยูริกสะสมในเลือดสูงขึ้น และทำให้เกิดการสะสมที่บริเวณข้อ จนกายเป็นโรคเกาต์ในที่สุด แต่ทั้งนี้ปัจจัยทางพันธุกรรมก็ยังมีส่วนเร่งทำให้เกิดโรคเกาต์ได้อีกด้วย 

ซึ่งถ้าพูดถึงการกินไก่ ที่ตกเป็นจำเลยทางสังคมมานมนาน ก็ต้องขอบอกเลยว่า “ไม่จริง!” การกินไก่ไม่ได้ทำให้เป็นโรคเกาต์เสมอไป แล้วถ้าหากจะบอกว่าการกินอาหารที่มีค่าพิวรีนสูงทำให้เป็นโรคเกาต์ ก็ควรที่จะพิจารณาปริมาณของค่าพิวรีนในเนื้อไก่ก่อนว่ามันมีอยู่เท่าไหร่ สูงมากแค่ไหน ก็จะพบว่าเนื้อไก่จัดอยู่ในกลุ่ม moderate หรือมีค่าพิวรีนระดับปานกลาง  แต่กลุ่มที่ค่าพิวรีนสูง คือ

  • พวกที่มีแอลกอฮอลล์ อย่างเช่น เหล้า เบียร์ สารที่ให้ความหวาน ที่อยู่ในน้ำอัดลม รวมไปถึงน้ำตาลทรายขาว
  • และพวกเครื่องในสัตว์  เช่น เครื่องในของไก่ วัว เป็ด ห่าน และหมู 

 

         สำหรับคนที่เป็นโรคเกาต์แล้ว ควรที่จะเลือกทานอาหารที่มีปริมาณพิวรีนน้อย-ปานกลาง เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองไว้ดีกว่า โดยอาจจะเลือกเป็นกลุ่มของพวกธัญพืชที่ไม่ขัดสี  ถั่วที่กินได้ เช่น  ถั่วพู, ถั่วงอก, ถั่วแขก, ถั่วลันเตา, ถั่วฝักยาว, ถั่วลิสง หรือพวกถั่วตระกูลนัท อย่างพิตาชิโอ, วอลนัท และเฮลเซลนัท

ส่วนถั่วที่มีพิวรีนสูง เช่น ถั่วเขียว, ถั่วเหลือง, ถั่วดำ,ถั่วแดง รวมทั้งโปรตีนจากพืช, เนื้อปลา, ไข่ไก่, นมไขมันต่ำ และผัก-ผลไม้สด เป็นต้น

แล้วถ้าหากจะกินไก่จริงๆ ก็แนะนำว่าให้เลือกกินส่วน อก ให้หลีกเลี่ยงปีก, น่อง, ข้อ และหนัง ทั้งนี้ควรจะดื่มน้ำวันละ 8-16 แก้วต่อวัน ตลอดจนถึงการควบคุมอาหาร และต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากจะเป็นการช่วยลดน้ำหนัก และยังเป็นการช่วยลดการสะสมของกรดยูริกได้ด้วย

 

 

ช่องทางติดต่อ

“คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์”

โทร : 061-010-6396
LINE : @drsuttclinic (อย่าลืมใส่ @)
Facebook : คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์