fbpx

5 ผักที่ผู้ป่วยเก๊าท์ควรหลีกเลี่ยง

5 ผักที่ผู้ป่วยเก๊าท์ควรหลีกเลี่ยง (และทางเลือกที่กินได้)
       หลายคนอาจเข้าใจว่าผักทุกชนิดดีต่อสุขภาพ แต่สำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์ การเลือกผักต้องระมัดระวังมากกว่าที่คิด เพราะผักบางชนิดมีพิวรีนสูง ซึ่งอาจกระตุ้นให้อาการกำเริบได้อย่างเฉียบพลัน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 5 ผักที่ควรหลีกเลี่ยง และแนะนำทางเลือกที่รับประทานได้อย่างปลอดภัย เพื่อการดูแลสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น

สาเหตุและประเภทของผักที่ส่งผลต่อโรคเก๊าท์

พิวรีนคืออะไร?
พิวรีน (Purine) คือสารประกอบตามธรรมชาติที่พบในอาหาร เมื่อร่างกายย่อยพิวรีน จะได้กรดยูริก (Uric Acid) เป็นผลลัพธ์ หากกรดยูริกสะสมในเลือดมากเกินไป จะเกิดการตกผลึกในข้อ ทำให้เกิดอาการปวด บวม แดง ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของโรคเก๊าท์

ทำไมผักบางชนิดถึงกระตุ้นโรคเก๊าท์?

แม้ผักจะมีปริมาณพิวรีนต่ำกว่ากลุ่มเนื้อสัตว์หรือเครื่องใน แต่ผักบางชนิดก็ยังมีพิวรีนในระดับปานกลางถึงสูง โดยเฉพาะผักที่มีรสขม ยอดอ่อน หรือมีกรดออกซาลิกสูง ซึ่งอาจกระตุ้นการสร้างกรดยูริกในร่างกายได้มากขึ้น

อาการและสัญญาณเตือนที่คุณควรรู้

หากคุณรับประทานอาหารที่มีพิวรีนสูงมากเกินไป และมีภาวะกรดยูริกสูงอยู่เดิม อาจสังเกตเห็นอาการเหล่านี้:
  • ปวดข้อเฉียบพลัน โดยเฉพาะที่นิ้วโป้งเท้า
  • ข้อบวม แดง ร้อน กดเจ็บ
  • เคลื่อนไหวข้อยากลำบาก
  • อาการปวดมักเกิดในตอนกลางคืน
  • มีไข้หรือรู้สึกหนาวสั่นร่วมด้วย
หากมีอาการดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ

การวินิจฉัยและการตรวจเบื้องต้น

แพทย์จะประเมินจากประวัติอาการ ตรวจร่างกาย และอาจแนะนำการตรวจเพิ่มเติม เช่น:
  • ตรวจระดับกรดยูริกในเลือด
  • เจาะน้ำไขข้อเพื่อดูผลึกยูเรต
  • ตรวจเอกซเรย์ข้อ หรืออัลตราซาวด์หาผลึกยูเรตสะสม
  • การวินิจฉัยอย่างแม่นยำจะช่วยให้วางแผนการรักษาได้ตรงจุด

แนวทางการรักษา: ทางเลือกที่หลากหลายเพื่อสุขภาพที่ดี

การรักษาแบบไม่ผ่าตัด
  • การใช้ยา: ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs), ยาลดกรดยูริก เช่น Allopurinol หรือ Febuxostat
  • การปรับพฤติกรรม: ลดอาหารที่มีพิวรีนสูง, ควบคุมน้ำหนัก, หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์
  • การดื่มน้ำมากขึ้น: ช่วยขับกรดยูริกทางปัสสาวะ
การรักษาแบบผ่าตัด
ในกรณีที่เกิดก้อนโทฟัสขนาดใหญ่ หรือข้อเสียหายรุนแรงจากการอักเสบเรื้อรัง อาจต้องพิจารณาผ่าตัดเอาก้อนยูเรตออกหรือผ่าตัดข้อ

การดูแลตัวเองและการป้องกันในชีวิตประจำวัน

  • ผักที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับผู้ป่วยเก๊าท์:
  1. ผักโขม
  2. หน่อไม้
  3. ดอกกะหล่ำ
  4. เห็ด
  5. ถั่วลันเตา
  • ทางเลือกผักที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ:
  1. กะหล่ำปลี
  2. ฟักทอง
  3. แตงกวา
  4. บวบ
  5. แครอท
  • พฤติกรรมเสริมในการดูแลตัวเอง:
    • ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
    • ออกกำลังกายสม่ำเสมอแบบไม่หักโหม
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และน้ำหวาน
  • ตรวจระดับกรดยูริกเป็นประจำ
 

เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 
หากคุณมีอาการปวดข้อซ้ำๆ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน หรือมีข้อบวมแดงบ่อยครั้ง ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยว่าใช่โรคเก๊าท์หรือไม่ และวางแผนการดูแลอย่างถูกต้อง อย่ารอให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น นิ่วในไตหรือข้อเสื่อมถาวร
 
 
 
แม้ผักจะมีประโยชน์ แต่ไม่ใช่ทุกชนิดจะปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยเก๊าท์ การรู้จักเลือกผักให้เหมาะสมสามารถช่วยป้องกันอาการกำเริบและเสริมสุขภาพให้แข็งแรงยิ่งขึ้น หากคุณยังไม่แน่ใจว่าผักที่รับประทานปลอดภัยหรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อคำแนะนำที่เหมาะสมกับตัวคุณ
 
 

ช่องทางติดต่อ
“คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์”

โทร : 061-010-6396
LINE : @drsuttclinic (อย่าลืมใส่ @)
Facebook : คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *