ลักษณะอาการปวดต้นคอ

         อาการปวดต้นคอมักเกิดขึ้นในได้หลายรูปแบบ โดยมีอาการดังต่อไปนี้

• • มีอาการปวดที่ต้นคอและจะรู้สึกปวดมากเมื่อหันไปด้านใดด้านหนึ่งเป็นเวลานาน
  • กล้ามเนื้อตึงหรือกระตุก ซึ่งจะยิ่งทำให้ปวดมากขึ้น
  • หันหน้าหันคอไม่ได้ เพราะมีอาการเจ็บ ต้องค่อยๆ หันช้าๆ

         นอกจากนี้การอาการปวดต้นคอเกิดจากเส้นประสาทคอถูกกดทับจะทำให้มีอาการเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น แขนชา, กลืนอาหารลำบาก, ปวดหัว, ต่อมน้ำเหลืองบวม, เจ็บใบหน้า, เจ็บแปลบบริเวณแขน ฯลฯ

สาเหตุของโรค

       เพราะคอถือว่าเป็นอวัยวะที่เปราะบางและหากได้รับการกระกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บ เคล็ด ได้เป็นอย่างมาก ซึ่งสาเหตุของอาการปวดคอเป็นเรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจำวันเรามากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น

• • กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง เป็นลักษณะอาการปวดต้นคอที่เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณคอมีการแข็งเกร็งหรือมีการทำกิจกรรมที่ใช้กล้ามเนื้อคอมากเกินไป เกร็งคอผิดท่าหรือเกร็งคอนานเกิดไป ไม่ว่าจะเป็น การนอนหลับตกหมอนหรือหันคอผิดท่านานๆ, นั่งทำงานนานโดยไม่มีการลุกเปลี่ยนอิริยาบถ, ก้มหน้าเล่นสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานๆ รวมทั้งก้มอ่านหนังสือ, มีอาการคอกระตุกระหว่างออกกำลังกาย, จัดวางท่าทางคอไม่ถูกต้องจนเกิดอาการเคล็ดเกร็ง
  • การได้รับอุบัติเหตุจนบาดเจ็บที่คอ การได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือการกระแทกแรงๆ บริเวณเป็นส่วนที่ต้องปกป้องเอาไว้ให้ดีที่สุด เพราะหากคอและศีรษะได้รับการกระแทกแรงๆ อาจทำให้เป็นอันตรายร้ายแรงได้
  • กระดูกสันหลังเสื่อม ในผู้สูงอายุที่มีอาการปวดต้นคอ ส่วนใหญ่จะเกิดจาก โรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม ซึ่งผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปี ขึ้นไปมักจะมีอาการนี้แต่ในบางรายจะไม่ได้มีอาการปวดคอ แต่หากกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อมอยู่ใกล้เส้นประสาทจะทำให้มีอาการปวดคอ ลามไปแขน มือและขาชาอีกด้วย
  • การติดเชื้อ ในกรณีที่มีการติดเชื้ออาทิ วัณโรค, กระดูกอักเสบ, หมอนกระดูกสันหลังอักเสบ , ฯลฯ ก็สามารถทำให้มีอาการปวดต้นคอ คอแข็งเกร็ง และปวดหัว
  • เส้นประสาทถูกกดทับ เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ง่ายในผู้สูงอายุเพราะมวลกระดูกของผู้สูงอายุเริ่มเสื่อมไปตามวัย ซึ่งหากเป็นสาเหตุจากเส้นประสาทถูกกดทับนอกจากจะปวดต้นคอแล้วยังจะมีอาการชา แขนเจ็บอ่อนแรง

การรักษาอาการปวดต้นคอ

 

         อาการปวดต้นคอหลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กที่ไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ แต่ในกรณีที่ปวดต้นคอมากกว่า 2 สัปดาห์ เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงการพบแพทย์ไม่ได้แล้ว เพราะการรักษาจะยิ่งยุ่งยากหากปล่อยอาการเอาไว้นาน โดยการรักษาแพทย์จะเริ่มที่ตรวจอาการและซักประวัติคนไข้ หากมีอาการชาและกล้ามเนื้ออ่อนแรงรวมด้วยอาจจะต้องทำซีทีสแกนควบคู่กับการรักษา แต่หากมีอาการอักเสบติดเชื้อคนไข้ต้องตรวจเลือดด้วย

         การรักษาอาการปวดต้นคอมีทั้งการรับประทานยาแก้ปวด, ยาแก้ปวดลดการอักเสบ, ยาแก้ปวดชนิดรุนแรง, ยาคล้ายกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังมีการรักษาด้วยการบำบัด ด้วยนักกายภาพบำบัดที่จะจัดระเบียบร่างกายให้อย่างถูกต้อง หรือการบำบัดด้วยการดึงคอ, การใส่เฝือกชั่วคราว และอีกหลายๆ วิธีขึ้นอยู่กับลักษณะอาการและสาเหตุของการปวดคอ

การป้องกันอาการปวดต้นคอ

         อาการปวดต้นคอมักเกิดจากการพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่จัดท่าทางไม่ถูกของตัวคุณเอง ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดอาการปวดต้นคอในช่วยวัยนี้ เมื่อสูงอายุแล้วจะเกิดภาวะกระดูกเสื่อมได้ง่ายอีกด้วย โดยอาการปวดต้นคอมีวิธีป้องกันดังต่อไปนี้

• • การนั่งทำงานหรือยืน ไหล่ต้องตั้งตรงอยู่ในแนวเดียวกับสะโพก หากนั่งทำงานบนโต๊ะที่มีหน้าจอคอมพิวเตอร์ ต้องจัดให้หน้าจออยู่ในระดับสายตา ปรับเก้าอี้ให้ความสูงที่ได้ระดับ
  • หากต้องนั่งทำงาเป็นเวลานานๆ ควรลุกขึ้นไปยืดเส้นสายบ้าง อย่านั่งท่าเดิมเป็นเวลานานๆ
  • หลีกเลี่ยงการสะพายเป้หรือกระเป๋าหนักๆ ไว้ที่ไหล่ เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อคอเกร็งอยู่ตลอดเวลา
  • การสูบบุหรี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งทำให้มีอาการปวดคอได้
  • การนอนควรนอนให้คออยู่ในแนวเดียวกับร่างกาย แล้วใช้เพียงหมอนเล็กๆ รองคอเอาไว้ พยายามให้สันหลังราบไปกับที่นอน
  •  ควรบริหารกล้ามเนื้อต้นคออย่างสม่ำเสมอ

     

         อาการปวดต้นคอเป็นอีกหนึ่งอาการใกล้ตัวที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเป็นอาการหนึ่งของโรคที่รุนแรงได้ นอกจากนี้อาการปวดต้นคอยังสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัยที่นั่งหรือยืนด้วยท่าทางที่ไม่เหมาะสม หรือการกระทบกระแทกที่รุนแรงที่บริเวณคอ ดังนั้นจึงควรปกป้องและใช้งานกล้ามเนื้อคออย่างถะนุถนอมและใส่ใจ เพื่อไม่ให้อาการปวดต้นคอเกิดขึ้นกับคุณจนลุกล่ามกลายเป็นโรคเรื้อรังได้