5 ผักที่ผู้ป่วยเก๊าท์ควรหลีกเลี่ยง (และทางเลือกที่กินได้)
หลายคนอาจเข้าใจว่าผักทุกชนิดดีต่อสุขภาพ แต่สำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์ การเลือกผักต้องระมัดระวังมากกว่าที่คิด เพราะผักบางชนิดมีพิวรีนสูง ซึ่งอาจกระตุ้นให้อาการกำเริบได้อย่างเฉียบพลัน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 5 ผักที่ควรหลีกเลี่ยง และแนะนำทางเลือกที่รับประทานได้อย่างปลอดภัย เพื่อการดูแลสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น
สาเหตุและประเภทของผักที่ส่งผลต่อโรคเก๊าท์
พิวรีนคืออะไร?
พิวรีน (Purine) คือสารประกอบตามธรรมชาติที่พบในอาหาร เมื่อร่างกายย่อยพิวรีน จะได้กรดยูริก (Uric Acid) เป็นผลลัพธ์ หากกรดยูริกสะสมในเลือดมากเกินไป จะเกิดการตกผลึกในข้อ ทำให้เกิดอาการปวด บวม แดง ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของโรคเก๊าท์
ทำไมผักบางชนิดถึงกระตุ้นโรคเก๊าท์?
แม้ผักจะมีปริมาณพิวรีนต่ำกว่ากลุ่มเนื้อสัตว์หรือเครื่องใน แต่ผักบางชนิดก็ยังมีพิวรีนในระดับปานกลางถึงสูง โดยเฉพาะผักที่มีรสขม ยอดอ่อน หรือมีกรดออกซาลิกสูง ซึ่งอาจกระตุ้นการสร้างกรดยูริกในร่างกายได้มากขึ้น
อาการและสัญญาณเตือนที่คุณควรรู้
หากคุณรับประทานอาหารที่มีพิวรีนสูงมากเกินไป และมีภาวะกรดยูริกสูงอยู่เดิม อาจสังเกตเห็นอาการเหล่านี้:
- ปวดข้อเฉียบพลัน โดยเฉพาะที่นิ้วโป้งเท้า
- ข้อบวม แดง ร้อน กดเจ็บ
- เคลื่อนไหวข้อยากลำบาก
- อาการปวดมักเกิดในตอนกลางคืน
- มีไข้หรือรู้สึกหนาวสั่นร่วมด้วย
หากมีอาการดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ
การวินิจฉัยและการตรวจเบื้องต้น
แพทย์จะประเมินจากประวัติอาการ ตรวจร่างกาย และอาจแนะนำการตรวจเพิ่มเติม เช่น:
- ตรวจระดับกรดยูริกในเลือด
- เจาะน้ำไขข้อเพื่อดูผลึกยูเรต
- ตรวจเอกซเรย์ข้อ หรืออัลตราซาวด์หาผลึกยูเรตสะสม
- การวินิจฉัยอย่างแม่นยำจะช่วยให้วางแผนการรักษาได้ตรงจุด
แนวทางการรักษา: ทางเลือกที่หลากหลายเพื่อสุขภาพที่ดี
การรักษาแบบไม่ผ่าตัด
- การใช้ยา: ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs), ยาลดกรดยูริก เช่น Allopurinol หรือ Febuxostat
- การปรับพฤติกรรม: ลดอาหารที่มีพิวรีนสูง, ควบคุมน้ำหนัก, หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์
- การดื่มน้ำมากขึ้น: ช่วยขับกรดยูริกทางปัสสาวะ
การรักษาแบบผ่าตัด
ในกรณีที่เกิดก้อนโทฟัสขนาดใหญ่ หรือข้อเสียหายรุนแรงจากการอักเสบเรื้อรัง อาจต้องพิจารณาผ่าตัดเอาก้อนยูเรตออกหรือผ่าตัดข้อ
การดูแลตัวเองและการป้องกันในชีวิตประจำวัน
- ผักที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับผู้ป่วยเก๊าท์:

- ผักโขม
- หน่อไม้
- ดอกกะหล่ำ
- เห็ด
- ถั่วลันเตา
- ทางเลือกผักที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ:

- กะหล่ำปลี
- ฟักทอง
- แตงกวา
- บวบ
- แครอท
- พฤติกรรมเสริมในการดูแลตัวเอง:
-
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอแบบไม่หักโหม
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และน้ำหวาน
- ตรวจระดับกรดยูริกเป็นประจำ
เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
หากคุณมีอาการปวดข้อซ้ำๆ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน หรือมีข้อบวมแดงบ่อยครั้ง ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยว่าใช่โรคเก๊าท์หรือไม่ และวางแผนการดูแลอย่างถูกต้อง อย่ารอให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น นิ่วในไตหรือข้อเสื่อมถาวร
แม้ผักจะมีประโยชน์ แต่ไม่ใช่ทุกชนิดจะปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยเก๊าท์ การรู้จักเลือกผักให้เหมาะสมสามารถช่วยป้องกันอาการกำเริบและเสริมสุขภาพให้แข็งแรงยิ่งขึ้น หากคุณยังไม่แน่ใจว่าผักที่รับประทานปลอดภัยหรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อคำแนะนำที่เหมาะสมกับตัวคุณ
ช่องทางติดต่อ
“คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์”
โทร : 061-010-6396
LINE : @drsuttclinic (อย่าลืมใส่ @)
Facebook : คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์