fbpx

ออกกำลังกายกับโรคเก๊าท์ – โอกาสหรืออันตราย?

หลายคนที่เป็นโรคเก๊าท์มักสงสัยว่า “ออกกำลังกายจะยิ่งทำให้ปวดข้อไหม?” หรือ “ควรงดกิจกรรมทางกายไปเลยหรือเปล่า?” ความกลัวเหล่านี้ทำให้ผู้ป่วยบางรายเลือกที่จะไม่ออกกำลังกายเลย ซึ่งในระยะยาวอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม เช่น น้ำหนักเกิน เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง
 
ความจริงคือ ผู้ป่วยโรคเก๊าท์สามารถออกกำลังกายได้ — แต่ต้องเลือกวิธีให้เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงแรงกระแทกที่อาจกระตุ้นอาการปวดหรือข้ออักเสบให้กำเริบ
 

 โรคเก๊าท์คืออะไร? สาเหตุและการเกิดของโรคนี้

เกิดจากกรดยูริกที่สะสมในข้อ

โรคเก๊าท์ (Gout) เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่เกิดจากการสะสมของผลึกกรดยูริกในข้อ ทำให้เกิดอาการบวม แดง ร้อน และเจ็บรุนแรง โดยมักพบที่ข้อหัวแม่เท้า ข้อเท้า หรือข้อเข่า
 

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ

  • พฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล
  • การดื่มแอลกอฮอล์
  • โรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
  • ภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน
 

อาการของโรคเก๊าท์ที่ควรรู้

  • อาการมักเกิดเฉียบพลันและรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงแรกเริ่ม
  • ปวดข้อรุนแรง มักเกิดตอนกลางคืน
  • ข้อบวม แดง ร้อน
  • เคลื่อนไหวข้อลำบาก
  • บางรายมีไข้ร่วมด้วย
 

การออกกำลังกายกับโรคเก๊าท์ ดีหรือไม่?

  • การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมสามารถ:
  • ลดน้ำหนักส่วนเกิน ซึ่งช่วยลดระดับกรดยูริกในเลือด
  • เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อ
  • ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรังอื่นๆ
 
ข้อควรระวัง: หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกระแทกข้อในช่วงที่โรคกำเริบ เช่น วิ่ง กระโดด หรือการเล่นกีฬาหนักๆ
 

แนวทางการออกกำลังกายที่ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยเก๊าท์

ช่วงโรคไม่กำเริบ (ระยะคงตัว)

ผู้ป่วยสามารถออกกำลังกายแบบแอโรบิกเบาๆ และเสริมกล้ามเนื้อได้ โดยเน้นความต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เช่น:
  • เดินเร็ว (30 นาที/วัน)
  • ว่ายน้ำ (ไม่กระแทกข้อ)
  • ปั่นจักรยานในร่ม
  • โยคะ หรือพิลาทิส
  • กายบริหารแบบยืดกล้ามเนื้อ
 

ช่วงโรคกำเริบ (อักเสบปวดข้อ)

  • ควรงดการออกกำลังกาย ที่ใช้งานข้อนั้นๆ และพักผ่อน
  • ใช้การประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการอักเสบ
  • หากอาการดีขึ้นแล้วจึงเริ่มการเคลื่อนไหวเบาๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป
 

ข้อควรปฏิบัติเมื่อออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยเก๊าท์

  • ออกกำลังกายตอนที่ข้อไม่มีอาการปวด
  • เริ่มจากเบาๆ แล้วค่อยเพิ่มระดับ
  • สวมรองเท้ากีฬาเหมาะกับการรองรับแรงกระแทก
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยขับกรดยูริกออกจากร่างกาย
  • หยุดออกกำลังกายทันทีหากมีอาการปวดรุนแรงหรือบวม

การดูแลตัวเองควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย

  • ควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น ตับ ไต ปลาซาร์ดีน
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และน้ำหวาน
  • ดื่มน้ำสะอาดวันละ 2-3 ลิตร
  • รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อไหร่ควรปรึกษาแพทย์

หากคุณพบว่า:
  • อาการปวดข้อไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
  • มีอาการกำเริบบ่อย
  • เริ่มรู้สึกเจ็บข้อมากขึ้นระหว่างออกกำลังกาย
  • ไม่แน่ใจว่าท่าออกกำลังกายที่ทำเหมาะสมหรือไม่
  • ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทาง เพื่อปรับแผนการดูแลให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณ
 

ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ก็แข็งแรงได้ ถ้าออกกำลังกายอย่างถูกวิธี

โรคเก๊าท์ไม่ใช่อุปสรรคในการดูแลสุขภาพ การออกกำลังกายสามารถเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการรักษาและควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแค่เลือกวิธีที่เหมาะสม หมั่นสังเกตอาการของตนเอง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างมีสติ
 

ช่องทางติดต่อ
“คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์”

โทร : 061-010-6396
LINE : @drsuttclinic (อย่าลืมใส่ @)
Facebook : คลินิกกระดูกและข้อ หมอสุทธิ์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *